Page 48 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 48
46
8
ได้ความตามฎีกาของจ าเลยโดยที่โจทก์มิได้โต้แย้งว่า ปัจจุบันจ าเลยอายุ ๗๑ ปี มีอาการป่วยเป็น
โรคต้อหินรุนแรงระยะสุดท้ายทั้งสองข้าง และเปลือกตาอักเสบเรื้อรังทั้งสองข้าง โดยต้องท าการรักษา
ต่อเนื่อง ประกอบกับจ าเลยไม่เคยได้รับโทษจ าคุกมาก่อน หลังเกิดเหตุก็มิได้เข้าไปท าประโยชน์ในที่เกิดเหตุ
อีก เชื่อว่าจ าเลยรู้ส านึกในการกระท าความผิดของตนและเข็ดหลาบแล้ว กรณีมีเหตุอันควรปรานี ที่ศาล
อุทธรณ์ภาค ๒ ไม่รอการลงโทษจ าคุกให้แก่จ าเลยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย แต่เพื่อให้จ าเลยหลาบจ า
เห็นสมควรลงโทษปรับและคุมความประพฤติของจ าเลย
๗๖๖๓/๒๕๖๑ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง ๔๘ วรรคหนึ่ง ๗๓
วรรคสอง (๑) พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๗ มาตรา ๑๔, ๓๑ วรรคสอง (๑) พ.ร.บ.สงวนและ
คุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓๘ วรรคหนึ่ง ๕๔ วรรคหนึ่ง รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก
๓ ปี และปรับ ๑๕๐,๐๐๐ บาท โทษจ าคุกให้รอการลงโทษและคุมความประพฤติ ให้จ าเลยจ่ายค่าเสียหาย
๗,๒๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี แก่กรมอุทยานแห่งชาติ
ตามรายงานการสืบเสาะและพินิจจ าเลยซึ่งโจทก์ไม่คัดค้านปรากฏว่าจ าเลยไม่เคยมีพฤติการณ์ใน
การตัดไม้ท าลายป่า หรือท าไม้หวงห้าม แปรรูปไม้หวงห้ามเพื่อการค้าในเชิงพาณิชย์มาก่อน แม้จ าเลยจะตัด
ไม้ยางในเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า แต่มีปริมาตรไม้ของกลางเพียง ๐.๑๖ ลูกบาศก์
เมตร คิดเป็นค่าเสียหายต่อรัฐ ๗,๒๐๐ บาท ซึ่งจ าเลยยินยอมช าระค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยตามค า
พิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ ใช้ดุลพินิจลงโทษปรับอีกสถานหนึ่งและรอการลงโทษจ าคุก
โดยคุมความประพฤติของจ าเลยไว้ เหมาะสมแล้ว
๑๘.ควำมผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.บัตรประจ ำตัวประชำชน พ.ศ. ๒๕๒๖
ไม่รอกำรลงโทษ
๕๗๑๕/๒๕๕๗ มีความผิดตาม พ.ร.บ.บัตรประจ าตัวประชาชน พ.ศ.๒๕๒๖ มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง
(๒) ป.อ มาตรา ๒๖๗ ประกอบมาตรา ๘๓ รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๖ เดือน
การที่จ าเลยร่วมกับพวกแจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการขอ
มีบัตรประจ าตัวประชาชนใหม่โดยอ้างว่าเป็นนาง ส.เป็นไปโดยไม่เคารพย าเกรงต่อกฎหมาย ผิดปกติวิสัย
ของสุจริตชน และยังก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ทางราชการอันเป็นความเสียหายโดยตรงใน
ด้านสาธารณะ พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง แม้จ าเลยกระท าความผิดดังกล่าวเพื่อต้องการไปท างาน
ในต่างประเทศน าเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวและจ าเลยมีภาระต้องเลี้ยงดูครอบครัว ก็ยังไม่มีเหตุผลเพียง
พอที่จะลงโทษในสถานเบากว่าโทษจ าคุกที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ ก าหนดมาและไม่เป็นการสมควรให้โอกาส