Page 227 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 227

๒๐๖



                                 จากภาพที่ ๔.๑๖ อธิบายได้ว่า

                                     ๑) ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของการแสดงความโกรธได้ดัชนีตรวจสอบ

                                                                                          2
                       ความสอดคล้องกลมกลืนของโมเดล FIRE-UP กับข้อมูลเชิงประจักษ์ ดังนี้    df=1 = ๑๔.๔๖ P-
                       value = ๐.๐๑ CMIN/DF = ๑๔.๙๔๔ GFI = .๙๗๘ CFI = .๙๑๕ NFI = .๙๑๕  RMR = .

                       ๐๑๔ RMSEA = .๒๐๓  AVE = .๓๘ CR = .๗๓  เห็นได้ว่าค่าดัชนีความสอดคล้อง p-value และ
                                                                    ิ
                       CMIN/DF ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด จำเป็นต้องพจารณาตัวสถิติตัวอื่นร่วมด้วย GFI CFI NFI
                       RMR AVE และ CR ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด

                                     ๒) ค่าน้ำหนักองค์ประกอบ (Factor loading) หรือน้ำหนักอิทธิพลที่ส่งผลต่อการ

                       แสดงความโกรธ (Anger Expression) พบว่า ตัวแบบ FIRE-UP Model แสดงค่าน้ำหนัก

                       องค์ประกอบเรียงจากมากไปน้อย คือ องค์ประกอบการแสดงความโกรธภายใน องค์ประกอบการให้
                       อภัย องค์ประกอบการแสดงความโกรธภายนอก องค์ประกอบอปนิสัยความโกรธ  และ องค์ประกอบ
                                                                           ุ
                       การควบคุมความโกรธ เท่ากับ .๘๘ .๗๒ .๖๑ .๔๐ และ .๒๕ ตามลำดับ โดยขนาดอิทธิพลของ
                       องค์ประกอบทั้ง ๕ องค์ประกอบมีนัยสำคัญทางสถิติในระดับสูง (P-value < .๐๐๑)


                                     ๓) จากผลการวิเคราะห์พบว่า โมเดล FIRE-UP มีความสอดคล้องกลมกลืนกับ
                       ข้อมูลเชิงประจักษ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ หรือกล่าวได้ว่า โมเดลนี้มีความตรงเชิงโครงสร้างและมี

                       ความน่าเชื่อถือที่ยอมรับได้ สามารถนำไปใช้ในการประเมินระดับความโกรธต่อไปได้

                                    ๓. การประยุกต์ใช้องค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัยกับข้อมูลเชิงประจักษ์


                                     ผลการการตรวจสอบองค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัย “FIRE-UP Model” นำมาประเมิน
                       ระดับความโกรธ (Anger Expression Level) ใช้เกณฑ์การวัดระดับความโกรธของสปิลเบอร์เกอร์

                       ที่เสนอให้ใช้ตำแหน่งที่เปอร์เซ็นไทล์เป็นค่ากำหนดระดับความโกรธ หลังจากนำข้อมูลเชิงประจักษ์

                       จำนวน ๑๐๐ ราย ที่ได้เก็บไว้สำหรับการทดสอบโมเดล ได้ผลการวิเคราะห์ รายละเอียดตามตารางที่
                       ๔.๒๔


                                 ตารางที่ ๔.๒๔ ระดับการแสดงความโกรธ (n = ๑๐๐)
                          ความโกรธ                        ความหมาย                      จ านวน  ร้อยละ

                        ระดับต่ำ         เป็นผู้ที่เมื่อเกิดความโกรธแล้วสามารถควบคุมได้   ๒๓     ๒๓.๐

                        ระดับปกติทั่วไป  เป็นผู้ที่เมื่อเกิดความโกรธแต่เก็บไว้ภายใน ไม่ถึงกับ ๕๙   ๕๙.๐
                                         ส่งผลกระทบทางลบแก่ผู้อื่น

                        ระดับสูง         เป็นผู้ที่เมื่อเกิดความโกรธแล้วจะแสดงออกภายนอก ๑๘       ๑๘.๐

                                         และส่งผลกระทบทางลบแก่ผู้อื่นได้
   222   223   224   225   226   227   228   229   230   231   232