Page 252 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 252

๒๓๑



                       หลักธรรมในพระพุทธศาสนา เป้าหมายที่คาดหวังคือ บุคคลในอดมคติ (Person Ideal) ๖ ประเภท ที่
                                                                           ุ
                       สามารถละความโกรธไปตามลำดับขั้น ได้แก่


                                     ๑. ปุถุชนทั่วไป เป็นผู้รู้ตัวว่าโกรธ ยอมรับความโกรธ และ สามารถใช้ความโกรธใน
                       เชิงสร้างสรรค์ (creative) ได้ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้อื่นหรือตนเอง


                                     ๒. ฆราวาสธรรม เป็นผู้สมาทานศีลเจริญภาวนา รู้ตัวว่าโกรธแล้ว (หนอ) ยอมรับว่า
                       โกรธแล้ว (หนอ) และ สามารถควบคุม (control) ความโกรธที่เกิดขึ้นได้ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้อื่น

                       หรือตนเอง

                                     ๓. พระโสดาบัน เป็นผู้ที่ละสังโยชน์ได้ ๓ เป็นผู้รู้ตัวว่าโกรธแล้ว ยอมรับว่าโกรธแล้ว

                       และ สามารถปล่อยวาง (Let go) ความโกรธที่เกิดขึ้นได้ด้วยสติ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้อื่นหรือตนเอง

                                     ๔. พระสกทาคามี เป็นผู้ที่ละสังโยชน์ได้ ๓ เหมือนพระโสดาบัน ส่วนความโกรธคงมี

                       แต่เบาบางมาก เป็นผู้รู้ตัวว่าโกรธแล้ว ยอมรับว่าโกรธแล้ว และ สามารถระงับ (conquer) ความโกรธ
                       ที่เกิดขึ้นด้วยสติ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้อื่นหรือตนเอง


                                     ๕. พระอนาคามี เป็นผู้ที่ละสังโยชน์ได้ ๕ เพราะละปฏิฆะนุสัยกิเลสอันเป็นเหตุให้
                       เกิดความโกรธได้อย่างเด็ดขาด คือ ดับโทสะได้เป็นสมุจเฉท (cut off) แล้วด้วยสติปัญญา


                                     ๖. พระอรหันต์ ผู้ที่ละสังโยชน์ทั้ง ๑๐ ได้อย่างเด็ดขาด ความโกรธถูกทำลายลงโดย
                       สิ้นเชิงในขันธสันดาน เป็นผู้ที่จิตมีอโทสะแล้ว จึงไม่ต้องใช้เทคนิคใดๆ  ซึ่งเป็นบุคคลในอุดมคติของ

                       การพัฒนาจิตในพระพุทธศาสนา

                       ๕.๕ ข้อเสนอแนะ


                                  ๕.๕.๑ ข้อเสนอแนะในการน าผลวิจัยไปใช้

                                 ๑) ควรนำองค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัย คือ FIRE-UP Model ไปใช้การประเมินความ

                       โกรธด้วยตนเอง (Anger Expression Self-Assessment) เพื่อเป็นการเฝ้าระวังอารมณ์โกรธใน

                       จิตใจ และควบคุมความโกรธได้ด้วยตนเองก่อนสร้างผลกระทบทางลบต่อวัตถุสิ่งของ บุคคลอื่น และ
                       ตนเอง


                                 ๒) ควรนำองค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัย คือ FIRE-UP Model ไปต่อยอดในการสร้าง
                       Application การจัดการความโกรธบนเครื่องมือสื่อสารดิจิตอล หรือ SMART-Watch โดย

                       โปรแกรมนี้จะมีจุดเด่นคือ เป็นโปรแกรมที่บูรณาการการจัดการความโกรธตามหลักจิตวิทยาด้วย

                       หลักธรรมในคัมภีร์พระพุทธศาสนา ที่เน้นการยอมรับ เข้าใจ ปล่อยวาง และให้อภัย พร้อมนี้ใน
   247   248   249   250   251   252   253   254   255   256   257