Page 137 - Untitled
P. 137

༛
                      วงจรดิจิตอล฽ละลอจิก༛                        ༛      ༛บททีไ༛4༛การลดรูปสมการดຌวยผังคารຏ฾นหຏ༛༛༛119
























                                                                                          ༛
                      ༛
                      ༛      ท้าการจับกลุ຋มทีไค຋าชิดกันจะเดຌจ้านวน༛2༛กลุ຋ม༛คือกลุ຋มทีไ༛1༛฼ท຋ากับจ้านวน༛8༛฼ทอมคือ༛0༛1༛2༛3༛4༛
                      5༛6༛฽ละ༛7༛จ้านวน༛1༛กลุ຋ม༛กลุ຋มทีไ༛2༛จ้านวน༛4༛฼ทอม༛คือ༛0༛2༛8༛฽ละ༛9༛฽ละท้าการลดรูปสมการ฾ดยการ
                                ั
                      พิจารณาทีไตว฽ปร༛A༛B༛C༛฽ละ༛D༛ดังนีๅ༛
                                      ั
                      ༛      กลุ຋มทีไ༛1༛ตว฽ปร༛A༛จาก฽ผนผังคารຏ฾นหຏ฿หຌมองจากดานล຋างขึๅนเปดานบนจะมค຋าระดับลอจิก
                                                                         ຌ
                                                                                              ี
                                                                                     ຌ
                      ฼ท຋ากับ༛๡0๢༛฽ละเม຋มีการ฼ปลีไยนค຋าระดับลอจิก༛ดังนัๅนจึงมีค຋า฼ท຋ากับ༛A༛ตัว฽ปร༛B༛มีการ฼ปลีไยน฽ปลงค຋าจึง
                      มีค຋า฼ท຋ากับ༛0༛ตัว฽ปร༛C༛฽ละ༛D༛มองจากกดຌานขวามือเปซຌายมือ༛มีการ฼ปลีไยน฽ปลงระดับลอจิก༛ดังนัๅนจึง
                      มีค຋า฼ท຋ากับ༛0༛
                                                                                 ຌ
                      ༛      กลุ຋มทีไ༛2༛ตัว฽ปร༛A༛จาก฽ผนผังคารຏ฾นหຏมองจากดานล຋างขึๅนเปดานบนจะมการ฼ปลีไยน฽ปลงค຋า
                                                                      ຌ
                                                                                          ี
                      ระดบลอจิก༛ดงนนจึงมค຋า฼ท຋ากบ༛๡0๢༛ตว฽ปร༛B༛มค຋าลอจิก฼ท຋ากบ༛๡0๢༛฽ละเมมีการ฼ปลีไยนค຋าระดบ
                                                ั
                                                                                        ຋
                         ั
                                    ัๅ
                                                                ี
                                         ี
                                                       ั
                                                                            ั
                                                                                                         ั
                      ลอจิก༛ดงนัๅนจึงมีค຋า฼ท຋ากับ༛B༛ตัว฽ปร༛C༛มองจากกดຌานขวามอเปซຌายมือ༛มีการ฼ปลีไยน฽ปลงระดับลอจิก༛
                                                                       ื
                             ั
                      จึงมีค຋า฼ท຋ากับ༛0༛฽ละตัว฽ปร༛D༛มีค຋าลอจิก฼ท຋ากับ༛๡0๢༛฽ละเม຋มีการ฼ปลีไยนค຋าระดับลอจิก༛ดังนัๅนจึงมีค຋า
                      ฼ท຋ากับ༛D༛༛༛
                      ༛      ฼พราะฉะนัๅน༛f(A,B,C,D)= M(0,1,2,3,4,5,6,7,8,10)༛จึงมีค຋า฼ท຋ากับ༛(A+0+0+0)(0++0+B)༛
                      =༛A(B+D)༛༛
                      ༛
                      4.7༛การก้าหนดระดับลอจิกส้าหรับ฼ทอมทีไเม຋สน฿จ༛(Don't༛care༛term)༛
                      ༛ ฿นวงจรลอจิกทีไมีตัว฽ปรอินพุตจ้านวนมาก༛อาจจะมีบຌาง฼งืไอนเขทีไเม຋จ้า฼ปຓนตຌองสน฿จการ฼ปลีไยน฽ปลง
                      สถานะลอจิก฼อาตຏพุต༛ซึไง฼หตุการณຏดังกล຋าว฼รียกว຋า༛๡༛Don't༛care༛term๢༛ซึไงวงจรสามารถทีไจะออก฽บบ
                                                             ุ
                                 ຋
                                                                                               ั
                                        ຌ
                      วงจร฾ดยทีไเมจ้า฼ปຓนตองระบุระดับลอจิก฼อาตຏพตว຋าจะตຌอง฼ปຓนระดับลอจิก༛๡1๢༛หรือระดบลอจิก༛๡0๢༛༛
                                                                                                         ั
                                                                                                     ี
                                                                                        ุ
                                                                                            ຌ
                                                                                      ຏ
                         ຌ
                       ใ
                      กเด༛฼ช຋น༛ตารางทีไ༛4.7༛มจ้านวนอนพต༛4༛ประกอบดวย༛A༛B༛C༛฽ละ༛D༛มี฼อาตพตทีไตองการ฿หຌมระดบ
                                          ี
                                                                  ຌ
                                                     ุ
                                                  ิ
                      ลอจิก༛๡1๢༛คือ༛ล้าดับทีไ༛༛0༛2༛4༛6༛฽ละ༛8༛ส຋วน฼อาตຏพุตทีไตຌองการ฿หຌ฼ปຓนระดับลอจิก༛๡0๢༛คือ༛ล้าดับทีไ༛1༛3༛
                      5༛7༛9༛฽ละ༛10༛ซึไงสามารถ฼ขียน฿นรูปของตารางความจริงเดຌดังตารางทีไ༛4.7༛
                      ༛
   132   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142