Page 71 - ขอเสนอเชงนโยบายเพอสนบสนนฯ e-book 1_Neat
P. 71

ระบบคลองส่งน�้ำแบบบูรณำกำร ช่วยพัฒนำระบบโลจิสติกส์ รวมถึง
                                         ผังเมืองให้กับภำครัฐ และเพิ่มรอบกำรผลิตผลผลิตทำงกำรเกษตร หำกรัฐยังไม่มีเงิน
                                         ลงทุน ให้ท�ำกำรกู้ หรือท�ำกำรลงทุนร่วมกับเอกชนในลักษณะ PPP (Public Private

                                         Partnership)  โดยเอกชนได้รับผลประโยชน์จำกระบบขนส่งโลจิสติกส์ จำกระบบคลอง
                                         ส่งน�้ำแบบบูรณำกำร เป็นทำงเลือกในกำรขนส่งสินค้ำในรำคำถูก ในขณะเดียวกัน
                                         เมื่อสำมำรถจัดกำรให้เกิดพื้นที่ชุ่มน�้ำ เกษตรกรสำมำรถเพิ่มรอบกำรท�ำเกษตรกรรม
                                         โดยไม่ทิ้งแปลงร้ำงหรือจัดกำรแปลงโดยกำรเผำ ท�ำให้ลดปริมำณฝุ่นละอองขนำด

                                         pm 2.5 นอกจำกนี้ เมื่อนักลงทุนไทยได้ไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้ำนก็น�ำประสบกำรณ์
                                         ควำมส�ำเร็จนี้ไปให้ประเทศเพื่อนบ้ำน จัดกำรกำรเกษตรแบบไม่เผำ เป็นกำรบูรณำกำร
                                         ซึ่ึ่งกันและกันในภำพรวม
                                                  สร้ำงมูลค่ำเพิ่มกำรจัดกำรพื้นที่เหนือเขื่อนหรืออ่ำงเก็บน�้ำ น�ำไปจัดสรร

                                         พัฒนำเป็นพื้นที่เกษตรกรรมแบบไฮโดรโปนิกส์ ใช้โป๊ะลอยน�้ำ หรือเน้นกำรปลูกไม้ผล
                                         กำรปลูกป่ำผสมผสำนทดแทนกำรปลูกพืชเชิงเดี่ยว เพื่อลดกำรพังทลำยของดิน
                                         และบริหำรกำรถือครองที่ดิน เพื่อลดปัญหำกำรขำดแคลนที่ดินท�ำกินแต่รัฐจัดสรร
                                         แบบให้โดยใช้ใบอนุญำตแบบมีอำยุ และ/หรือเมื่อครบอำยุแล้วจะต้องมีกำร ออดิท

                                         เพื่อป้องกันกำรบุกรุกป่ำ ช่วยท�ำให้พื้นที่ป่ำเพิ่มขึ้น โดยกำรจัดกำรให้เป็นทั้งเกษตร
                                         ปลอดสำรพิษ เป็นแหล่งเพำะพันธุ์ปลำหำยำก เป็นที่ผลิตพลังงำนแสงอำทิตย์ รวมถึง
                                         เป็นสถำนที่พักผ่อนหย่อนใจ จัดกำรให้เหมำะสมกับนิเวศวิทยำ ออกใบอนุญำตและ
                                         ควบคุมก�ำกับ ท�ำให้เกิดควำมมั่นคงทำงด้ำนอำหำร และพลังงำน เพิ่มศักยภำพใน

                                         กำรแข่งขัน ประหยัดเงินงบประมำณในกำรดูแล และสร้ำงนวัตกรรมทำงกำรเกษตร
                                         รวมถึงกำรมุ่งสู่กำรเป็น Wellness ยกคุณภำพชีวิตประชำชนได้



                                         3.4   การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ

                                                ประเด็นปัญหา
                                                1. รัฐบำลก�ำหนดให้ยำนยนต์สมัยใหม่ (เช่น ยำนยนต์ไฟฟ้ำ) และเกษตร
                                         มูลค่ำสูง เป็นอุตสำหกรรมส�ำหรับอนำคต และในช่วงวิกฤติโรคระบำด มีสินค้ำ

                                         หลำยชนิดไม่สำมำรถผลิตต่อเนื่องได้เนื่องจำกขำดแคลนวัตถุดิบ รัฐอำจต้องหันมำ
                                         พิจำรณำผลิตสินค้ำจ�ำเป็นในประเทศเพื่อให้เกิดควำมมั่นคงในห่วงโซึ่่อุปทำน
                                                2. โครงสร้ำงอุตสำหกรรมยังอำศัยจุดแข็งหรือทรัพยำกรเดิมตั้งแต่อดีต เช่น

                                         แหล่งน�้ำมันและปิโตรเคมี แหล่งท่องเที่ยวในประเทศ หรือกำรเกษตรพื้นฐำนซึ่ึ่งไม่มี
                                         มูลค่ำเพิ่มสูง (commodity) และยังไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมอย่ำงจริงจัง
                                                3. ขำดควำมพร้อมด้ำนบุคลำกรที่มีควำมรู้ด้ำนวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี
                                         ดิจิทัลและทักษะที่จ�ำเป็นส�ำหรับอุตสำหกรรมแห่งอนำคต







                                                                                              นักศึกษา วปอ. รุ่นที่ 63  69
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76