Page 153 - Publicationa15
P. 153
เสรีภาพในการชุมนุมกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย 145
(Socialitas) กล่าวได้ว่าเป็นทฤษฎีที่มองธรรมชาติของมนษุย์ในฐานะที่เป็น
สิ่งที่มีเหตุผล และต้องการอยู่ร่วมกันเป็นสังคม
โกรเชียสได้วางรากฐานของความชอบธรรมในการปกครองไว้บนหลัก
สัญญาประชาคม (Social Contract) โดยอธิบายว่า “รัฐนั้นเกิดจากการที่
อิสระชนทั้งหลายได้มาเข้ากันเป็นสมาคมอันบริบูรณ์ที่อิสระชนทั้งหลายนั้น
ได้อยู่ร่วมกัน (Common Interest) ของคนเหล่านั้น” โดยทั่วไปนั้นชนทั้งหลาย
ย่อมโอนอ�านาจสูงสุดในการปกครองของตนให้แก่ผู้ถืออ�านาจปกครองทั้งหมด
และผู้ปกครองย่อมได้มาซึ่งอ�านาจปกครองนั้นโดยเสมอกับเป็นสมบัติส่วนตัว
ของตน ดังนั้น ผู้ปกครองจึงไม่ต้องตกอยู่ในบังคับควบคุมของสิ่งใด อย่างไรก็ดี
ผู้ปกครองย่อมผูกพันที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายธรรมชาติและกฎหมาย
นานาชาติ ถ้าผู้ปกครองใช้อ�านาจของตนไปในทางที่มิชอบแล้ว หลักทั่วไปก็คือ
บรรดาผู้อยู่ภายใต้การปกครองทั้งปวงไม่มีสิทธิหรือความชอบธรรมที่ต่อต้าน
ผู้ปกครอง แต่ในกรณีที่ผู้ปกครองใช้อ�านาจโดยมิชอบอย่างถึงขนาด หรือท�าการ
อันเป็นการบ่อนท�าลายชาติอย่างชัดแจ้งราษฎรอาจต่อต้านผู้ปกครองได้
ทฤษฎีสัญญาสวามิภักดิ์ (PactumSubjectiones) โทมัส ฮอบส์
(Thomas Hobbes ค.ศ. 1588-1679) เป็นนักปราชญ์ชาวอังกฤษที่พยายาม
ให้ค�าอธิบายความชอบธรรมของการปกครองจากธรรมชาติของมนุษย์
โดยอธิบายต่อจากความคิดของ ฌอง โบแดง (Jean Bodin) เกี่ยวกับอ�านาจ
อธิปไตยของรัฐเกิดขึ้นจากการที่ราษฎรมาเข้าท�าสัญญากันตั้งขึ้นไว้ และเหตุนี้
ประชาชนจึงต้องเชื่อฟังกฎหมายของรัฐ เรียกว่า ทฤษฎีสัญญาสวามิภักดิ์ 5
การที่ประชาชนยอมตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝ่ายปกครอง
เนื่องจากต้องการเห็นสังคมที่เกิดความสงบเรียบร้อย เมื่อใดที่ฝ่ายปกครอง
ปกครองโดยไม่เป็นธรรม ประชาชนย่อมมีสิทธิแสดงความคิดเห็น ทักท้วง
รวมถึงการรวมตัวกันเรียกร้อง หรือแสดงความคิดเห็นเพื่อให้รัฐได้ทราบ
ซึ่งฝ่ายปกครองมีหน้าที่ต้องรับฟังเสียงจากเจ้าของอ�านาจที่แท้จริง
5 ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี เกษมทรัพย์, Philosophy of Law นิติปรัชญา, โครงการต�า ราและเอกสาร
ประกอบการสอน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, พิมพ์ครั้งที่ 10, หน้า 194.
_17-0315(141-177)8.indd 145 4/27/60 BE 11:57 AM