Page 214 - Publicationa15
P. 214
206 วราภรณ์ มีเปรมปรีด์
เมื่อพิจารณาสาระส�าคัญประการหนึ่งของหลักประชาธิปไตย จะเห็น
ได้ว่าระบอบประชาธิปไตยโดยตรงไม่สามารถที่จะน�ามาใช้กับการปกครอง
ในสังคมปัจจุบันได้ เนื่องจากมีข้อจ�ากัดหลายประการ ดังนั้น การปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตยในยุคปัจจุบันจึงเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
โดยทางผู้แทน ซึ่งอาจจะเป็นประชาธิปไตยโดยทางผู้แทนในระบบรัฐสภาหรือ
ระบบประธานาธิบดีหรือกึ่งประธานาธิบดี โดยมีพื้นฐานทางความคิดที่ว่า
อ�านาจทางการเมืองหรืออ�านาจทางปกครองนั้นมาจากประชาชน ในลักษณะ
ที่ประชาชนมิได้เป็นผู้ใช้ด้วยตนเอง แต่มอบให้บุคคลกลุ่มหนึ่งเป็นผู้ใช้อ�านาจ
แทน ซึ่งบุคคลเหล่านี้อยู่ในฐานะเป็นผู้แทนของประชาชน
ในส่วนของระบบรัฐสภา (Parliamentary Government) นั้น เป็นระบบ
6
รัฐบาลที่ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด กล่าวคือ
ฝ่ายนิติบัญญัติจะท�าหน้าที่จัดตั้งรัฐบาลคือคณะรัฐมนตรี ในขณะเดียวกันก็มี
อ�านาจท�าให้คณะรัฐมนตรีพ้นจากต�าแหน่งได้โดยการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
แต่ฝ่ายบริหารก็มีอ�านาจยุบสภา เพื่อท�าให้สมาชิกพ้นจากต�าแหน่งทั้งหมด
ก่อนครบอายุของสภาและต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่
เมื่อพิจารณาถึงรูปแบบของรัฐสภา จะเห็นได้ว่าโดยทั่วไปสามารถจ�าแนก
ได้ 2 รูปแบบ กล่าวคือ ระบบสภาเดียว (Unicameralism) และระบบสภาคู่
(Bicameralism) ซึ่งการพิจารณาว่ารัฐหนึ่งๆ ควรประกอบด้วยกี่สภานั้นย่อม
ขึ้นกับองค์ประกอบหลายประการ ได้แก่
7
1. ประวัติศาสตร์ ซึ่งประวัติวิวัฒนาการทางการเมืองของแต่ละประเทศ
ย่อมเป็นเครื่องก�าหนดว่าประเทศนั้นควรมีสภาเดียวหรือสองสภา
2. รูปแบบของรัฐ เป็นเครื่องก�าหนดว่ารัฐนั้นควรมีสภาเดียวหรือสองสภา
ไม่ว่าจะเป็นรัฐเดี่ยวหรือรัฐรวม
3. สถานการณ์และสภาพเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง นับว่าเป็นปัจจัย
ในการก�าหนดรูปแบบ และโครงสร้างของรัฐสภา โดยมีข้อสังเกตว่า ประเทศ
6 เพิ่งอ้าง, น. 167-169.
7 นันทวัฒน์ บรมานันท์ และคณะ, การปรับโครงสร้างของระบบรัฐสภา, (กรุงเทพมหานคร: สถาบัน
พระปกเกล้า, 2554), น. 34-35.
_17-0315(203-223)10.indd 206 4/27/60 BE 11:57 AM