Page 288 - Publicationa15
P. 288
280 สมผล ตระกูลรุ่ง
ที่มาแล้วพึงอยู่ในแว่นแคว้นโดยผาสุก
อปริหานิยธรรม 7 ประการนี้ พระพุทธเจ้าตรัสแสดงแก่เจ้าวัชชีทั้งหลาย
ผู้ปกครองรัฐโดยระบอบสามัคคีธรรม ซึ่งรัฐคู่อริยอมรับว่า เมื่อชาววัชชียังปฏิบัติ
ตามหลักธรรมนี้ จะเอาชนะด้วยการรบไม่ได้ นอกจากจะใช้การเกลี้ยกล่อม
หรือยุแยกให้แตกสามัคคี
การปกครองในทางพุทธศาสนา พิจารณาถึงอ�านาจในการตัดสินใจว่า
อ�านาจในการตัดสินใจสูงสุดอยู่ที่ไหน การปกครองก็เป็นระบอบนั้น พุทธศาสนา
จึงแบ่งการปกครองตามอ�านาจการตัดสินใจในการปกครอง โดยแบ่งการ
ปกครองออกเป็น 4 ประเภท คือ อัตตาธิปไตย คณาธิปไตย ประชาธิปไตย และ
ธรรมาธิปไตย
อัตตาธิปไตย คือการปกครองที่การตัดสินใจขึ้นอยู่กับบุคคลคนเดียว
ที่จะเป็นผู้ก�าหนดนโยบายตัดสินปัญหา การปกครองอย่างนี้ ในสมัยโบราณคือ
ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ถ้าเป็นปัจจุบัน เราก็เรียกกันว่า เผด็จการ
คณาธิปไตย คือการปกครองที่การตัดสินใจขึ้นอยู่กับคณะบุคคล เป็น
คนหลายคนร่วมกันตัดสินใจในการปกครอง ปัจจุบัน เราก็ยังคงถือว่า เป็น
ระบอบเผด็จการโดยคณะบุคคล
ประชาธิปไตย คือการปกครองโดยถือเอาประชาชนเป็นใหญ่ ประชาชน
เป็นผู้ตัดสินใจ แต่เนื่องจากประชาชนมีจ�านวนมาก ไม่สามารถตัดสินใจโดยตรง
ได้ จึงต้องเป็นการตัดสินใจโดยผ่านตัวแทนเป็นทอดๆ ไป
ธรรมาธิปไตย คือการปกครองโดยถือเอาธรรมเป็นใหญ่ การตัดสินใจ
ไม่ขึ้นอยู่กับบุคคลใดๆ ไม่ว่าคนเดียวหรือหลายคน แต่ขึ้นอยู่กับธรรม คือ
ความถูกต้อง
เมื่อหัวใจของการปกครองคือ อ�านาจการตัดสินใจ การปกครองจะเกิด
ผลสัมฤทธิ์จึงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ถ้าตัดสินใจถูกประเทศก็เจริญรุ่งเรือง แต่ถ้า
ตัดสินใจผิด ก็อาจเกิดความเสียหาย สร้างความพินาศกับประเทศได้ ดังเช่น
การตัดสินใจของ ฮิตเลอร์
ในระบอบประชาธิปไตยที่เราให้ประชาชนเป็นใหญ่ เป็นผู้ใช้อ�านาจ
ตัดสินใจ ในความเป็นจริงย่อมเป็นไปไม่ได้ที่ประชาชนทุกคนจะเห็นเหมือนกัน
ทุกคน ในระบอบประชาธิปไตยจึงต้องใช้เสียงข้างมากในการตัดสินใจของ
_17-0315(269-284)13.indd 280 4/27/60 BE 11:57 AM