Page 9 - My FlipBook
P. 9

INFORMATION CORNER





















                              ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ “พลังงานชีวมวล”   ให้หันไปปลูกพืชอื่นๆ ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคต่อ
                           ดาวรุ่งมาแรง ยังเติบโตได้ในระยะยาว         ผู้ประกอบการที่ใช้เชื้อเพลิงแกลบเพื่อการผลิตไฟฟ้า
                                                                      ในระยะข้างหน้า
                              ข้อมูลที่น่าสนใจจากการวิเคราะห์ของ ศูนย์วิจัย

                           กสิกรไทย พบว่า กลุ่มพลังงานที่มีแนวโน้มการผลิต
                           เข้าใกล้เป้าหมายมากที่สุด ได้แก่ พลังงานชีวมวล รอง  ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ฉายแววได้ดี
                           ลงมา คือ พลังงานแสงอาทิตย์และขยะ ส่วนพลังงาน  ในต่างแดน
                           ลมนั้นยังถือว่าห่างไกลเป้าหมายมากพอสมควร       สถานการณ์การลงทุนด้านพลังงานทดแทนใน
                                                                      ประเทศไทยตั้งแต่นี้ไปจนถึงปี 2561 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
                              ส�าหรับพลังงานชีวมวล ถือเป็นพลังงานทดแทน
                           ในกลุ่มแรกๆ ที่ภาครัฐให้การสนับสนุน เนื่องจาก  ยังระบุว่าสามารถเติบโตต่อไปได้ โดยคาดว่าอาจจะ

                           ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีวัสดุเหลือใช้ทางการ  เห็นภาพการลงทุนในกลุ่มพลังงานทดแทนประเภท
                           เกษตรที่สามารถน�ามาใช้เป็นพลังงานทางเลือกเพื่อ  พลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่มี
                           ผลิตไฟฟ้าได้ท�าให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล   การปลดล็อกข้อจ�ากัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความคืบหน้า
                           เข้าใกล้เป้าหมายค่อนข้างเร็วกว่าประเภทอื่นๆ   ของโครงการโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์
                           อย่างไรก็ดี ส�าหรับในระยะต่อไป โอกาสด้านการ  การเกษตร รวมถึงการเปิดเสรีโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งเป็น
                           ลงทุนในพลังงานประเภทนี้ น่าจะเหมาะส�าหรับผู้  โครงการน�าร่องและส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามา

                           ประกอบการในธุรกิจการเกษตรที่มีวัตถุดิบอยู่แล้ว   มีส่วนร่วมในการผลิตไฟฟ้า (จ�านวน 100 เมกะวัตต์)
                           เช่น โรงงานน�้ามันปาล์ม โรงงานน�้าตาล โรงไม้ยาง    ซึ่งน่าจะเอื้อต่อผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
                           โรงสี ฯลฯ ต้องการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ภายใน  ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตจ�าหน่าย ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์
                           ธุรกิจของตนเอง เพื่อลดภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าและ  กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงกลุ่ม
                           สามารถขายไฟส่วนที่เหลือบางส่วนคืนกลับให้   ผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้างที่จะได้ประโยชน์ในเชิง
                           กฟผ. ในรูปของการขายไฟแบบผู้ผลิตไฟรายเล็กและ   ธุรกิจเพิ่มมากขึ้นจากตัวโครงการที่ผ่านการคัดเลือก
                           รายเล็กมาก (SPP และ VSPP) มากกว่าที่จะเป็น   และพร้อมจะด�าเนินการ
                           การเข้ามาลงทุนของผู้ประกอบการรายใหม่ที่ไม่ได้มี   นอกจากนี้ ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ยังมี

                           By Product หรือเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตอยู่ก่อนแล้ว  แนวโน้มขยายการเติบโตทางธุรกิจไปสู่ต่างประเทศ
                                                                      มากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีผู้ประกอบการบางส่วน
                              ทั้งนี้ กลุ่มชีวมวลที่ค่อนข้างมีศักยภาพที่สามารถ
                           ดึงดูดการลงทุนได้ในระยะต่อไป ได้แก่ ประเภทอ้อย   เริ่มหันมาเจาะตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะ
                           (เนื่องจากภาครัฐเตรียมที่จะผลักดันและ พัฒนา  ในแถบเอเชีย (ญี่ปุ่นและอาเซียนที่มีศักยภาพใน
                           ผลผลิตอ้อยเพิ่มขึ้น) ในขณะที่ชีวมวลแกลบอาจจะ  การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ได้ปริมาณมาก)
                           เป็นกลุ่มที่ต้องจับตา ภายหลังจากที่ภาครัฐก�าลัง  เนื่องจากการมองหาตลาดต่างประเทศนั้นเป็นกลยุทธ์

                           หารือเกี่ยวกับการจัดโซนนิ่งลดพื้นที่การปลูกข้าว  หนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถต่อยอดโอกาส
                           นาปรังลง เพื่อแก้ไขปัญหาผลผลิตตกต�่าและจูงใจ  ทางธุรกิจได้เพิ่มมากขึ้น






                                                                               THE BEST IN ENERGY AND ENVIRONMENT  DECEMBER 2016 :  9
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14