Page 12 - บทที่ ๑
P. 12

๖



                      อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่ฝรั่งเศสเริ่มบุกเวียดนามโดยยึดเมืองตูราน และเวียดนามสู้รบกับ

               ฝรั่งเศสและพ่ายแพ้จนต้องตกอยู่ในฐานะรัฐในอารักขาของฝรั่งเศสใน พ.ศ. ๒๔๒๗ ทำให้มีเวียดนาม

               หลบหนีลี้ภัยสงครามเข้ามาอาศัยในประเทศสยามเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเวียดนามที่หลบหนีการ

               ปกครองของฝรั่งเศสและพวกชาตินิยมต่อต้านฝรั่งเศส ซึ่งได้กลายเป็นปัญหาสำหรับไทยในสมัย

               พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ที่ต้องรักษาแผ่นดินไทยให้พ้นภัยชาวต่างชาติต่อไป



               จำนวนประชากรญวนในประเทศไทย

                      ชาวเวียดนามที่อพยพเข้ามาในประเทศไทยแต่เริ่มต้นยังไม่ปรากฎชัดว่ามีอยู่จำนวนเท่าไร มี

               เพียงแต่การประมาณเท่านั้นเอง ตั้งแต่สมัยองเชียงซุนและองเชียงสือ พวกที่อพยพเข้ามาเพื่อพึ่งพระบรม

               โพธิสมภารของพระเจ้าแผ่นดินไทยสมัยต่าง ๆ ก็เพื่อให้ตัวเองได้รับความอยู่เย็นเป็นสุข สร้างหลักฐานให้
               มั่นคงทั้งชีวิต การค้า ศาสนา การเมือง บางครั้งพวกเวียดนามที่อพยพเข้ามาด้วยการถูกต้อนมาเป็นเชลย


               อาจจะมีการเสียชีวิตไปบ้าง เช่น ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑ ได้มา
               อพยพมาจากประเทศลาว ประมาณ ๔๐๐ คน แต่ก็ตายไปราว ๓๐๐ คน เลยทีเดียว

                      ต่อมาในสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ได้มีการสำรวจอีกครั้งหนึ่งแต่ก็ยังไม่

               สามารถชี้ชัดลงไปได้ ถึงกระนั้นได้มีการประมาณอย่างคร่าว ๆ ว่า มีชาวเวียดนามอยู่อาศัยในสมัยนั้นราว

               ๖,๐๐๐ – ๘,๐๐๐ คน ตามหลักฐานร่วมสมัยเช่นบันทึกของปาลเลอกัวซ์ (บาทหลวงฝรั่งเศสที่ได้เข้ามา

               อยู่ในประเทศสยามในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมกล้าฯ และอยู่นานถึง ๒๔ ปี ได้กล่าวถึงชาวเวียดนาม

               เฉพาะในกรุงเทพฯ ว่ามีถึงราว ๑๒,๐๐๐ คน จากจำนวนพลเมืองในกรุงเทพฯ ทั้งหมด ๔๐๔,๐๐๐ คน

               (ไม่นับรวมพวกที่นับถือคริสต์ศาสนาชาติต่าง ๆ ซึ่งมีราว  ๔,๐๐๐ คน และเป็นชาวเวียดนาม ๑,๔๐๐

               คน) เซอร์จอนห์ บาวริง เป็นอีกผู้หนึ่งที่บันทึกจำนวนเวียดนามไว้ แต่กล่าวเฉพาะพวกเวียดนามเชลยศึก

               ว่ามีถึงหนึ่งหมื่นคน สำหรับเวียดนามในกรุงเทพฯ นั้น เขาอ้างจากบันทึกของปาลเลอกัวซ์เปรียบเทียบกับ

               หนังสือ “ข้อสังเกตเกี่ยวกับหมู่เกาะอินเดีย” ของ Moor มัวร์ว่าเวียดนามในกรุงเทพฯ ใน พ.ศ. ๒๓๗๑ มี

               ประมาณ ๑,๐๐๐ คน และประชาชนในกรุงเทพฯ ทั้งหมดมี ๓๗๖,๕๐๐ คน ซึ่งบาวริงเชื่อปาลเลอกัวซ์

               มากกว่าเพราะว่ามัวร์ประมาณไว้น้อยเกินไปมาก นอกจากนั้นที่แน่นอนคือ พ.ศ. ๒๔๔๖ พระบาทสมเด็จ

               พระจุลจอมเกล้าฯ โปรดฯ ให้สำรวจประชากร ทำบัญชีสำมะโนครัวอย่างละเอียด แต่ทำสำเร็จได้เพียง

               ๑๒ มณฑล จำนวนคนทั้งหมด ๓,๓๐๘,๐๓๒ คน เป็นเวียดนาม ๔,๗๕๗ คน (ในจำนวนนี้เป็นเวียดนาม

               ในมณฑลปราจีนถึง ๑,๑๒๔ คน ส่วนที่เหลือโดยมากจะเป็นมณฑลจันทรบุรี) ใน พ.ศ. ๒๔๕๒ การสำรวจ

               มณฑลกรุงเทพฯ เฉพาะมณฑลชั้นในได้จำนวนเวียดนาม ๔,๒๓๐ คน จากประชากรกรุงเทพฯ ทั้งหมด

               ๕๒๒,๐๕๔ คน และในบัญชีแยกชาติ ส่วนอารามเป็นเวียดนาม ๗๔ คน จาก ๑๘,๖๒๕ คน สำหรับ
               มณฑลอุดรฯ ใน พ.ศ. ๒๔๕๒ สำรวจได้เวียดนาม ๙๖๓ คน ซึ่งเป็นระยะการลี้ภัยสงครามฝรั่งเศส เฉพาะ
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17