Page 41 - บทที่ ๑
P. 41

๒๘



               อนาคต ข้าพระพุทธเจ้าจึงขออาราธนา และขอความเมตตาได้ทรงกรุณาชี้แจงให้เวไนยสัตว์ทั้งหลายได้

               ทราบถึงคุณบารมี และบุญญาภินิหารของดาวนพเคราะห์ทั้ง ๙ พระองค์นี้ เพื่อจะได้เป็นที่พึ่งระลึกของ

               สัตว์โลกทั้งหลาย อันจะเป็นนิสัยทำจิตให้บังเกิดความเลื่อมใสต่อไป” องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัส

               กับพระโพธิสัตว์องค์หม่านทู้เทิ๊กเหล่ย ว่า  “ดีแล้ว เราตถาคตขอชี้แจงแสดงให้ท่านทั้งหลายฟัง จะได้รู้ว่า

               ดาวนพเคราะห์ทั้ง ๙ พระองค์นี้ มีคุณบารมีที่ได้ปกครองเวไนยสัตว์เอาไว้เพียงใด เมื่อถึงคราวสมัยที่

               เวไนยสัตว์อันเชิญท่านทั้งหลายลงไปยังมนุษย์โลก จะได้ไปบอกกับเวไนยสัตว์ในปัจจุบันหรืออนาคต

               ข้างหน้า ถ้าเวไนยสัตว์มีจิตคิดระลึกถึง และทำการสักการะบูชาด้วยความเลื่อมใสแล้ว จะมีความสุข

               ความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปตามความประสงค์” พระพุทธองค์จึงได้เอาพระนามของเทพเจ้าประจำดาวนพ

               เคราะห์ทั้ง ๙ ดวงขึ้นมาแสดง ซึ่งมีพระนามดังต่อไปนี้

                      องค์ที่ ๑      พระอาทิตย์           ไท่เยือง
                      องค์ที่ ๒      พระจันทร์            ไท่อ็อม


                      องค์ที่ ๓      พระอังคาร            หมอกดึ๊ก
                      องค์ที่ ๔      พระพุธ               หวาดึ๊ก

                      องค์ที่ ๕      พระพฤหัสบดี          โถดึ๊ก

                      องค์ที่ ๖      พระศุกร์             ไท่บัด

                      องค์ที่ ๗      พระเสาร์             ถีดึ๊ก

                      องค์ที่ ๘      พระราหู              ราโห้ว

                      องค์ที่ ๙      พระเกตุ              เก้โด่

                      (เทพยดาประจำดาวนพเคราะห์ทั้ง ๙ นี้ มีอยู่ ๗ พระองค์ที่เป็นใหญ่ปกครองดูแล ส่วนอีก ๒

               พระองค์คือ พระราหู และ พระเกตุ มีหน้าที่คอยช่วยเหลือเทพยดาผู้เป็นใหญ่ทั้ง ๗ พระองค์นั้น)

                      ครั้นเมื่อพระพุทธองค์ได้เทศนาตามพระคัมภีร์นพเคราะห์สูตรจบแล้ว พระพุทธองค์จึงได้ยกเอา

               ประวัติของเทพเจ้าทั้ง ๙ พระองค์ขึ้นมาตรัสต่อไปว่า “ในอดีตกาลสมัยนั้น ตั้งแต่เทพเจ้าทั้ง ๙ พระองค์

               ยังไม่ได้เข้าสู่ปรินิพพาน ได้ทรงแผ่บารมีเมตตากรุณาแก่สรรพสัตว์คือ เราแลท่านทั้งหลายที่อยู่ในโลกนี้

               ครั้นปรินิพพานไปแล้วจึงขึ้นไปจุติเป็นเทพยดาประจำดาวนพเคราะห์หมดทั้ง ๙ พระองค์”

                      ฝ่ายพระอินทร์ พระพรหม และเทพยดาทั้งหลาย ครั้นได้สดับรับฟังองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

               แสดงพระธรรมนพเคราะห์สูตรดังนั้นแล้ว จึงพร้อมกันกราบนมัสการกล่าวเป็นคำสรรเสริญขึ้นว่า “เทพย

               ดาทั้ง ๙ พระองค์ท่านได้ปฏิญาณตนไว้ว่าจะแผ่เมตตาไปให้ถึงสรรพสัตว์ที่เกิดอยู่ในโลกนี้ ความดี ความ

               ประเสริฐของพระองค์สูงสุดอย่างยิ่ง ไม่มีสิ่งใดจะมาเปรียบเทียบกับพระองค์ได้ พระองค์ปราศจากกิเลส

               หลุดพ้นจากโลกีย์วิสัยแล้ว ในอดีตแม้พระองค์จะได้สร้างพระบารมีถึงซึ่งมรรคผลแล้ว พระองค์ก็ยังทรง
               ตั้งอยู่ในความอุตสาหะพากเพียรแผ่เมตตาจิต อบรมโปรดสัตว์อยู่ต่อไปอีกถึง ๔ กัลป์ ดาวนพเคราะห์ทั้ง
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46