Page 45 - บทที่ ๑
P. 45
๓๒
พระพุทธศาสนาของตถาคต เพราะตถาคตได้สร้างสมอบรมบารมีไว้เป็นอันมาก สุดที่จะพรรณาและชาติ
เกิดของตถาคตเวียนเกิดเวียนดับอยู่ในวัฏสงสารนี้ก็สุดที่จะพรรณาได้ มาจนครบชาติที่สุดนี้ ได้จุติเป็น
ราชบุตรของพระเจ้าสุทโธทนะ (กรุงกาตี้ลาเกวิ๊ก หรือกรุงกบิลพัสดุ์) ประสูติในวันขึ้น ๘ ค่ำเดือน ๖ แล้ว
ได้ย่างพระบาทไปทั้ง ๔ ทิศ ทิศละ ๗ ก้าว และพระหัตถ์เบื้องซ้ายชี้บนอวกาศ พระหัตถ์เบื้องขวาชี้ลงยัง
พื้นปฐพี แล้วได้เผยพระโอษฐ์ตรัสว่า “เทียนเถื่องเทียนห่ายือโงโด๊กโรน” แปลว่า “ทั่วทั้ง ๓ ภพนี้ไม่มีผู้
หนึ่งผู้ใดจะใหญ่กว่าตถาคตอีกแล้ว” และในขณะนั้นเทพยดาทั้งหลายพากันเอาดอกไม้ธูปเทียนน้ำหอม
เป็นทิพย์ลงมาสรงพระวรกาย จนตถาคตได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า แล้ว ได้ตรัสเทศนาสั่งสอนเวไนยสัตว์
ทั้งหลายและเทพยดาอินทร์พรหมให้ได้สำเร็จมรรคผลดังความปรารถนา ฉะนั้นเมื่อบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดจำวัน
เดือนปีที่ตถาคตประสูติได้แล้ว ถ้านำเอาเครื่องตั้งบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียนผลไม้แล้ว จงเชิญพระรูป
ตถาคตเมื่อเพิ่งประสูตินั้นออกมาสรงด้วยน้ำสุคนธารอันมีกลิ่นหอมต่าง ๆ ทำอย่างนี้แหละกองการกุศล
จะปรากฏเพิ่มพูนขึ้นเป็นอันมากและผู้ที่ได้ทำการสักการะบูชาโสรจสรงพระรูปพระโฉมดังที่ได้วิสัชนามา
ฉะนี้แล้ว ก็จะได้รับความอยู่เย็นเป็นสุขทั้งปัจจุบันนี้และอนาคตข้างหน้า ก็จะได้รับความสุขสวัสดิ์พิพัฒ
นมงคลผาสุขทุกประการ และมนุษย์ที่ได้เกิดมานี้เป็นการยากอย่างยิ่งที่จะพบปะในพระรัตนตรัย
(ตามบ๋าว คือ ดวงแก้ว ๓ ประการ) ถ้าบุคคลผู้ใดมีดวงจิตคิดเห็นในวัฏสงสารแล้ว ก็รีบก่อสร้างกองการ
กุศลไว้เถิด จะเป็นที่พึ่งต่อไปในภายภาคหน้า”
ด้วยเหตุนี้วัดพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน จึงได้จัดให้เป็นงานเทศกาลประจำปี ทำบุญวิสาขบูชา
สรงน้ำพระพุทธรูป ปางพระพุทธเจ้าประสูติ หล่อเทียนเข้าพรรษา และอุปสมบทนาครวมประจำปี
หลังจากวันวิสาขบูชาแล้ว ๑ วัน กล่าวคือทางจีนนับ วัน ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ถัดจากนั้นหนึ่งวัน วัด
ทุกวัดในพระสงฆ์อนัมนิกายจะต้องปวารณาเข้าพรรษา โดยต้องใช้เพียงวันเดียวเท่านั้น คือวัน ๑๖ ค่ำ
เดือน ๔ ถ้าเป็นวันอื่น ๆ ใช้ไม่ได้
การออกพรรษา
นับจากการเข้าพรรษา เมื่อวัน ๑๖ ค่ำ เดือน ๔ ไปแล้ว ๓ เดือน กล่าวคือ วัน ๑๖ ค่ำ เดือน ๗
พระสงฆ์อนัมนิกายจะทำการปวารณาออกพรรษา เพียงวันเดียวเท่านั้น และแต่ละวันจำกำหนดให้มีการ
รับกฐินภายใน ๓๐ วัน กล่าวคือ ตั้งแต่วัน ๑๖ ค่ำ เดือน ๗ ถึง ๑๖ ค่ำ เดือน ๘ พ้นไปแล้วไม่สามารถที่
จะรับได้
ช่วงหลังการเข้าพรรษา จะใกล้ออกพรรษา จนปวารณาออกพรรษาแล้ว กล่าวคือ วัน ๑ ค่ำ
เดือน ๗ จนถึง วัน ๓๐ ค่ำ เดือน ๗ จะเป็น การบริจาคทาน ด้วยพิธีสงฆ์ คือ การทิ้งกระจาด เพื่อบริจาค
ทานให้กับภูติผีทั้งหลาย ซึ่งชาวจีน ชาวญวน เชื่อกันว่า เมื่อวัน ๑ ค่ำ เดือน ๗ เป็นวันที่ขุมนรก เปิดให้
พวกภูติผีที่ไร้ญาติขาดมิตร ที่ญาติพี่น้องไม่ได้ทำบุญอุทิศให้ ให้ออกมารับส่วนบุญหรือรับสิ่งของที่คนเขา