Page 44 - บทที่ ๑
P. 44

๓๑



               ส่วนบุตรที่เกิดมานั้นจะออกมาเป็นชายหรือหญิงก็ตาม จะเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย  โรคภัยไม่มี  ลักษณะงาม

               กว่าเด็กทั้งหลาย

                      องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเทศนาแก่มนุษย์ว่า “ท่านทั้งหลาย ผู้ใดมีจิตเลื่อมใสระลึก

               ถึงคุณแห่งดาวนพเคราะห์ทั้ง ๙ พระองค์ ผู้ซึ่งเป็นผู้มีบุญคุณแผ่เมตตากว้างขวาง อบรมและปกครอง

               สรรพสัตว์ชั้นสูง คือ พระอินทร์ และเทวดา ชั้นกลางคือ กษัตริย์ ที่อยู่ในเมืองมนุษย์ และชั้นต่ำพวก

               มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายตลอดจนถึงภูเขาและมหาสมุทร ต้นไม้แลต้นหญ้า นพเคราะห์ต้องอบรมปกครอง

               ดูแลสอดส่องรักษาให้ได้ซึ่งความสุขความเจริญโดยทั่วกัน มนุษย์ปุถุชนทั้งหลาย ถ้าเวลามีดวงชะตาไม่ดี

               ทำให้เคราะห์ร้าย และเกิดมีภยันตรายมาเบียดเบียน  ทำให้มีการขัดสนไปต่าง ๆ ให้ตั้งพิธีบวงสรวงแล้ว

               สวดตามคัมภีร์นพเคราะห์สูตรนี้ให้เสมอไป ก็อาจจะกำจัดโรคภัยที่กล่าวมานั้นได้ หมู่ประเทศเมืองใดเกิด

               มีศึกมารบราฆ่าฟันกันขึ้น หรือเกิดการจลาจลขึ้นในบ้านเมืองใดก็ดี ให้ตั้งพิธีเอารูปเทพยดาดาวนพ
               เคราะห์ตั้งขึ้น แล้วให้ปฏิบัติบูชาเจริญพระคัมภีร์อย่าให้ขาด ขอให้เทพยดาเข้ามาดลใจให้พวกทหารมี


               น้ำใจแกล้วกล้า ไปสงครามสารทิศ    ใด ๆ ข้าศึกก็จะครั่นคร้าม จะได้รับชัยชนะในสงครามทุกครั้งไป”
                      องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเทศนาต่อไปอีกว่า “ส่วนบารมีของดาวนพเคราะห์นี้มี

               อำนาจมาก มีอภินิหารมาก ถ้าจะพรรณาให้ละเอียดในเวลานี้ก็ไม่หมด” แล้วพระองค์ได้ทรงแสดงพระ

               คาถาอันเป็นอักขรเลขยันต์ไว้ว่า  “อ๊านฮักนาด้างนา  กรากราเด้ มาฮาเด้ ทั๊กกรา ฮักบั๊ดนาเหย่ ตาบ้า

               ฮา” ซึ่งพระคาถาบทนี้เป็นของดี ของประเสริฐ  เป็นของขลังสำหรับผู้ที่เลื่อมใสในทางไสยศาสตร์อีกทั้ง

               สำหรับป้องกันภัยจากโจร ผู้ร้ายที่จะมาทำอันตรายต่าง ๆ ได้ทุกอย่าง

                      ครั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แสดงชี้แจง เรื่องคัมภีร์นพเคราะห์สูตรนี้จบแล้ว พระ

               โพธิสัตว์องค์หม่านเทิ๊กเหล่ยพร้อมด้วยพระอินทร์ พระพรหม กับเทพยดาทั้งหลายถึง ๘ จำพวก ได้พร้อม

               ใจกันทำการนมัสการกราบทูลว่า “ข้าแต่พระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าทั้งหลายเมื่อได้รับฟังคำสั่งสอน ต่างมีจิต

               เลื่อมใส และจะขอเชื่อถือปฎิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ได้ตรัสเทศนา ส่วนผลานิสงส์

               ในพระคัมภีร์นพเคราะห์สูตรนี้ ได้รับความแจ่มแจ้งทุกอย่างทุกประการ สำหรับท่านทั้งหลายที่ได้ฟังพระ

               ธรรมเทศนาในที่นี้เป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ และถ้ามีจิตรับศีลภาวนาในการพิธีนี้ จะได้รับซึ่งส่วนบุญส่วน

               กุศลมากหนักหนา จะประสบกับความสุขทั้งในชาตินี้และในชาติหน้า”

                      ด้วยเหตุนี้สงฆ์ทางฝ่ายมหายาน จึงได้ยึดถือการจัดงานพิธีบูชาดาวนพเคราะห์ต่อชะตาเป็นประจำ

               ทุกปี จนเป็นประเพณีสืบต่อเนื่องกันมา เพื่อความเป็นศิริมงคลแต่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย อันประเพณีนี้

               เรียกว่า  “พิธีบูชาดาวนพเคราะห์ทั้ง ๙”

               พิธีสรงน้ำพระพุทธรูปปางประสูติในวันวิสาขบูชา

                      สมเด็จพระมหากรุณาสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ตรัสกับพระมหากษัตริย์องค์หนึ่ง ทรงพระนาม
               ว่า พระเจ้ามาฮาซั๊กด้าว ว่า “ดูก่อนมหาบพิตร อันเทวโลกก็ดี มนุษย์โลกก็ดี เมื่อเกิดมายากที่จะพบ
   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49