Page 3 - เหตุการณ์สำคัญสมัยรัตนโกสินทร์
P. 3
ประวัติศาสตร์ ม. ๓ เหตุการณ์ส าคัญสมัยรัตนโกสินทร์ ผู้สอน ครูจิราพร พิมพ์วิชัย 2
2. หัวเมืองชั้นนอก
3. หัวเมือง ประเทศราช ถ้าเป็นเมืองที่อยู่ห่างไกลราชธานี จะต้องส่งเครื่องบรรณาการมาให้เมือง
หลวง ๓ ปีต่อครั้ง ส่วนเมืองที่อยู่ใกล้ราชธานี ให้ส่งมาปีละครั้ง
กฎหมายไทยในสมัยนี้ ถือตามแบบอย่างอยุธยาและธนบุรี แต่ได้มีการแก้ไขตรวจสอบขึ้นใหม่ในรัชกาลที่ ๑ มี
ชื่อว่า กฎหมายตราสามดวง คือ ตราราชสีห์ ตราคชสีห์ และตราบัวแก้ว ใช้สืบต่อมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ ๕
การศึกษามีศูนย์กลางอยู่ที่วัด วัง และต้าหนักเจ้านาย รัชกาลที่ ๓ โปรดให้จารึก ต้าราการแพทย์แผน
โบราณ ไว้ที่วัดพระเชตุพน (วัดโพธิ์) ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นวัดมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย
การศาสนา การท้านุบ้ารุงศาสนา จะมีการท้าสังคายนา ช้าระพระไตรปิฎก การออกกฎหมายส้าหรับพระสงฆ์
และการสร้างวัดส้าคัญ เช่น วัดพระศรีรัตนศาดาราม วัดสุทัศน์เทพวราราม และวัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม เป็น
ต้น ในสมัยรัชกาลที่ ๒ โปรดให้ส่งทูตไปศึกษาความเป็นไป ของพระพุทธศาสนาในลังกา และได้น้าหน่อพระศรีมหา
โพธิ์จากลังกา กลับมา ในสมัยรัชกาลที่ มีการสร้างและปฏิสังขรณ์วัดเป็นจ้านวนมาก จนนับได้ว่า เป็นสมัยที่มีการ
ท้านุบ้ารุงพระพุทธศาสนาเป็นจ้านวนมาก
ความสัมพันธ์กับประเทศตะวันตก ได้ขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากอยู่ในยุคแห่งการ ปฏิวัติอุตสาหกรรม และลัทธิ
จักรวรรดินิยม ชาติตะวันตกที่ส้าคัญ ที่เข้ามาติดต่อกับไทย ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ได้แก่
โปรตุเกส เป็นชาวตะวันตกชาติแรกที่เข้ามาติดต่อ ชาวโปรตุเกส ชื่อ อันโตนิโอ เอด วิเสนท์ (องตนวีเสน)
เป็นผู้อัญเชิญสาส์นเข้ามา ในรัชกาลที่ ๑ ในสมัยรัชกาลที่ ๒ ไทยได้ส่งเรือไปค้าขาย กับโปรตุเกส ที่มาเก๊า และ
โปรตุเกสได้ขอเข้ามาตั้งสถานกงสุล ในประเทศ ได้ส้าเร็จเป็นประเทศแรก
อังกฤษ พยายามท้าไมตรีกับไทย เพื่อหวังประโยชน์ในดินแดนมลายู ในสมัยรัชกาลที่ ๓ อังกฤษ ได้มาขอ
ความช่วยเหลือให้ไทยไปช่วยรบกับพม่า ไทยกับอังกฤษ ได้ท้าสนธิสัญญา โดยสมบูรณ์เป็นฉบับแรก ในสมัย
รัตนโกสินทร์ คือ สนธิสัญญาเบอร์นี ในวันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๖๙ โดยมีสาระส้าคัญ คือ ไทยกับอังกฤษ จะมี
ไมตรีจิตต่อกัน อ้านวยความสะดวกในด้านการค้าซึ่งกันและกัน และเรือสินค้า ที่เข้ามาค้าขาย ต้องเสียภาษีเบิกร่อง
หรือภาษีปากเรือ แทนการเก็บภาษีตามแบบเดิม
กรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔ จนถึงก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕
หัวเลี้ยวหัวต่อของประวัติศาสตร์ไทยตอนนี้ อยู่ที่การท้า สนธิสัญญาเบาว์ริง ในสมัยรัชการที่ ๔ ที่มาและ
สาระส้าคัญของการท้าสนธิสัญญาเบาว์ริง มีดังนี้
๑. ในสมัยรัชการที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนแปลงนโยบาย ต่างประเทศ มาเป็นการ
คบค้ากับชาวตะวันตก เพื่อความอยู่รอดของชาติ เนื่องจากทรงตระหนักถึงภัยจากลัทธิจักรวรรดินิยม ซึ่ง
ก้าลังคุกคามประเทศต่าง ๆ อยู่ในขณะนั้น
๒. จุดเริ่มของการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศ คือ การท้าสนธิสัญญาเบาว์ริง กับอังกฤษ ใน พ.ศ.
๒๓๙๘ โดยพระนางเจ้าวิกตอเรีย ได้แต่งตั้งให้ เซอร์ จอห์น เบาว์ริง เป็นราชทูตเข้ามาเจรจา
๓. สาระส าคัญของสนธิสัญเบาว์ริง มีดังนี้
o อังกฤษขอตั้งสถานกงสุลในประเทศไทย
o คนอังกฤษมีสิทธิเช่าที่ดินในประเทศไทยได้
o คนอังกฤษสามารถสร้างวัด และเผยแพร่คริสต์ศาสนาได้