Page 146 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 146

ประวัติศาสตร์จานเดียว




           แปลกที่ประชาชนชาวพม่าจะคิดไปเองว่าตนด้อยกว่าคนผิวขาว  จนเมื่อเกิด
           สงครามโลกครั้งที่ ๑ ขึ้น ในปี พ.ศ. ๒๔๕๗ คนพม่าก็เริ่มเปลี่ยนทัศนคติใหม่
           อังกฤษเกณฑ์แรงงานชาวพม่ากว่าแปดพันคนไปทำางานยังต่างแดน  พวกเขา

           ได้พบกับความเลวร้ายของสงครามยุคใหม่  และพบว่าคนผิวขาวไม่ได้ศิวิไลซ์
           ไปกว่าพวกเขา  สงครามโลกครั้งที่  ๑  ยังเป็นการปลุกจิตสำานึกและมีอิทธิพล
           ต่อขบวนการชาตินิยมอย่างมาก

                  เมื่อชาวอินเดียถูกอังกฤษเกณฑ์ไปใช้แรงงานและเป็นทหารร่วมรบ
           ในสงครามโลกครั้งที่ ๑ รัฐบาลอังกฤษจึงพยายามเอาใจด้วยการให้สัญญาว่า
           จะให้อินเดียปกครองตนเอง  ข่าวนี้สร้างความหวังให้กับชาวพม่าเช่นกัน  แต่
           อังกฤษก็ยังไม่ยอมปล่อยให้พม่าปกครองตนเองอยู่ดีเพราะมองว่าพม่ายังล้า
           หลัง  คนพม่าส่วนใหญ่ยังขาดการศึกษาที่เพียงพอ  ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้

           ชาวพม่าเป็นอย่างมาก
                  ความจริงแล้วอังกฤษเองก็ใช่ว่าจะปล่อยให้อินเดียปกครองตนเอง
           ตามที่ให้คำามั่นไว้  เพราะกว่าอินเดียจะเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์ได้ก็ต้องรอ

           จนถึงหลังสงครามโลกครั้งที่  ๒  ดังนั้นความหวังในการเป็นอิสระของพม่าก็
           เป็นเพียงแค่ความฝันต่อไป

                                   ********************



                  ได้เคยเกริ่นไว้เมื่อบทที่แล้วว่าการที่อังกฤษเข้ามาปกครองพม่านั้น
           ยังคงมีความดีอยู่บ้างตรงที่เปิดกว้างทางการศึกษา   โดยเฉพาะการศึกษา
           แบบสากลที่สามารถนำาความรู้ไปใช้ได้จริงๆ  แทนการร่ำาเรียนจากวัดเหมือน

           ในสมัยโบราณ ปี พ.ศ. ๒๔๒๑ ได้มีการก่อตั้ง มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง ขึ้นที่เมือง
           ย่างกุ้ง   และได้กลายเป็นรากฐานสำาคัญของการศึกษายุคใหม่ของพม่ามา
           จนถึงปัจจุบัน การเปิดมหาวิทยาลัยในครั้งนั้นเปรียบเสมือนการเปิดโลกทัศน์



           ๑๓๘
   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151