Page 171 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 171
ประวัติศาสตร์จานเดียว
เสียมากกว่า ยิ่งเมื่ออองซานเสียชีวิตอย่างกระทันหัน ทหารทุกนายจึงถ่าย
โอนความภักดีมายังเนวิน ผู้บัญชาการสูงสุดในขณะนั้น แม้กระทั่งในวันที่
เขาไม่มีตำาแหน่งใดๆ อย่างเป็นทางการ ผู้นำากองทัพคนใหม่หรือกระทั่งนาย
ทหารชั้นผู้น้อยก็ยังจงรักภักดีไม่เปลี่ยนแปลง
กองทัพเชื่อว่าพวกเขาถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการต่อสู้เพื่อเอกราช พวก
เขาเท่านั้นที่จะสร้างและดำารงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ โดยที่พลเรือนได้แสดง
ให้เห็นแล้วว่าไม่สามารถทำาได้ (รัฐบาลอูนุ) นี่จึงเป็นภาระหน้าที่ที่จำาเป็น
และชอบธรรมในการเข้ามาบริหารจัดการประเทศเสียเอง ความภักดีต่อผู้นำา
ทางการทหารอาจมีส่วนใกล้เคียงกับความภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ที่ทรงเป็น
จอมทัพหรือผู้นำากองทัพทั้งมวล ผู้นำาทางการทหารจึงกลายเป็นตัวแทนของ
สถาบันสูงสุดเมื่อประเทศไม่มีกษัตริย์เสียแล้ว
นอกเหนือจากชนกลุ่มน้อยแล้ว กลุ่มนักศึกษา ยังเป็นอีกหนึ่งศัตรู
อันตรายในสายตาของรัฐบาลทหาร เพราะกลุ่มปัญญาชนเหล่านี้เป็นตัวตั้ง
ตัวตีสำาคัญในการก่อความวุ่นวายขึ้นในหลายๆ ครั้ง
กลุ่มพลังนักศึกษาเริ่มมีบทบาทมาตั้งแต่สมัยอาณานิคม เช่นการ
ก่อตั้งสมาคมยุวพุทธพม่า (YMBA) ในช่วงแรกๆ มุ่งเป้าไปที่ประเด็นทาง
ศาสนาและวัฒนธรรม ต่อมาจึงปรับแนวทางไปทางการเมืองโดยมุ่งที่การ
เรียกร้องเอกราชและสร้างชาตินิยม นักศึกษาเป็นหัวหอกสำาคัญที่เชื่อมโยง
สถาบันสงฆ์และประชาชนกลุ่มต่างๆ เข้าด้วยกันจนเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ ผู้นำา
คนสำาคัญๆ อย่าง อองซาน อูนุ หรือกระทั่งเนวินเอง ก็ล้วนแต่มีจุดเริ่มต้น
จากรั้วมหาวิทยาลัยทั้งนั้น
พลังนักศึกษามีบทบาทอย่างสูงตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเรือนอูนุที่ไม่
สามารถนำาพาประเทศไปสู่ฝั่งฝันได้ จนเมื่อเนวินทำาการยึดอำานาจ (พ.ศ.
๒๕๐๕) กลุ่มนักศึกษาก็ออกประท้วงจนถูกปราบปรามอย่างรุนแรง นักศึกษา
และประชาชนเสียชีวิตไปจำานวนหนึ่งซึ่งแน่นอนว่าตัวเลขที่รัฐบาลบอกต้อง
๑๖๓