Page 65 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 65

ประวัติศาสตร์จานเดียว




            พระราชอำานาจเหลืออยู่แล้วก็ตาม  แต่พระองค์ยังทรงเป็นเสมือนสัญลักษณ์
            ของอำานาจเหนือแผ่นดินพม่าทั้งปวง   คือนอกเหนือจากกรุงหงสาวดีแล้ว
            ยังรวมถึงเมืองใหญ่น้อยอีกมากมายที่ยังคงได้ชื่อว่าเป็นประเทศราช

            ของพม่า     เจ้าเมืองตองอูที่พยายามตั้งตนเป็นใหญ่นั้นก็ยังคงอ้างพระเจ้า
            นันทบุเรงอยู่ในการดำาเนินการใดๆ  การที่ฝ่ายใดจะได้ตัวพระเจ้านันทบุเรง
            ก็คือว่าเป็นการกุมความได้เปรียบในแง่ของนิตินัย
                    แต่อีกแง่หนึ่งที่อาจเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยแต่ก็ขอให้สะกิดคิด

            ไว้ในฐานะคนไทยที่ถือเอาพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งค้ำาชูจิตใจ   คือเป็นไป
            ได้ไหมว่าพระองค์ต้องการจะมาช่วยหงสาวดีมากกว่า    แน่ล่ะว่าสุดท้าย
            ก็ต้องยึดเอาไว้อยู่ดี  แต่ในพระทัยลึกๆ  พระองค์อาจจะอยากรักษาหง
            สาวดีไว้   เพราะอย่างน้อยนี่ก็คือเมืองที่พระองค์เคยประทับอยู่นานหลาย

            ปี  และพระเจ้านันทบุเรงนั้นแม้ว่าจะเป็นคู่สงครามกันอยู่ก็ตาม  แต่ตาม
            ประสาคนไทยที่ยังให้การเคารพผู้อาวุโสกว่า    ยิ่งหากนับญาติกันแล้ว
            ก็เปรียบเสมือนพระเชษฐาของพระองค์     จะดูดายเปล่าๆ    ได้อย่างไร
                    น่าเสียดายที่การเดินทัพมาครั้งนี้ของพระองค์   กลับเป็นการเร่ง

            ให้ทัพตองอูและยะไข่ร่วมกันผลาญกรุงหงสาวดีที่เคยรุ่งโรจน์ให้กลายเป็น
            ทะเลเพลิงที่โชติช่วงชัชวาล  พระราชวังของพระเจ้าบุเรงนองที่ว่าใหญ่โตงาม
            นักหนานั้นก็เหลือแต่ซากกันคราวนี้เอง
                    พวกทหารตองอูและยะไข่ยังบุกเข้ารุมโจมตีทัพไทยแบบกองโจร

            เสียอีก  ประกอบกับเมื่อทราบว่ากรุงหงสาวดีไม่เหลือชิ้นดีแล้ว  สมเด็จพระ
            นเรศวรก็ยกทัพกลับ ล้มความคิดที่จะครองพม่าตอนล่างเอาไว้เพียงเท่านั้น


                                    ********************



                    ความวุ่นวายบนแผ่นดินพม่ายังไม่มีทีท่าว่าจะสงบ  ทั้งที่ในรัชสมัย



                                                                        ๕๗
   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70