Page 26 - กฎหมายในชีวิตประจำวัน
P. 26
26
5.2.1 เจตนาตามความเป็นจริง
ผู้กระทําต้อง “รู้” ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบภายนอกของความผิด และผู้กระทําจะต้องประสงค์ต่อผล
หรือเล็งเห็นผลของการกระทํานั้น
การรู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบภายนอกของความผิด หมายความว่า รู้ข้อเท็จจริงทุกประการอันเป็น
องค์ประกอบภายนอกของความผิดฐานนั้นๆ เช่น ในความผิดฐานฆ่าคนตาย ตาม ปอ. มาตรา 288
ผู้กระทําก็จะต้องรู้ว่าการกระทําของตนเป็นการ “ฆ่า” และรู้ว่าเป็นการฆ่า “ผู้อื่น”
ผลของการไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบภายนอกคือ ถือว่าผู้กระทําไม่มีเจตนากระทําความผิดฐาน
นั้นๆ เช่น หากผู้กระทําไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนยิงคือ “ผู้อื่น” แต่เข้าใจว่าเป็นการยิง “ศพ” ก็จะถือว่ามีเจตนาฆ่าผู้อื่น
ไม่ได้จึงไม่ผิดตาม ปอ. มาตรา 288 เพราะความผิดตามมาตรานี้ ผู้กระทําจะต้องมีเจตนาจึงจะมีความผิด
ได้ อย่างไรก็ตามหากการไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบภายนอกนั้นเกิดขึ้นเพราะความประมาท
ผู้กระทําก็อาจต้องรับผิดฐานประมาท หากมีกฎหมายบัญญัติว่า การกระทําโดยประมาทเป็นความผิด เช่น
หากผู้กระทําดูให้ดีก็จะรู้ว่าสิ่งที่ตนยิงเป็น “ผู้อื่น” ไม่ใช่ “ศพ” ผู้กระทําก็จะต้องรับผิดฐานฆ่าคนตายโดย
ประมาทตาม ปอ. มาตรา 291
เจตนาประสงค์ต่อผล หมายความว่า มุ่งหมายหรือประสงค์ต่อผลโดยตรง ในความผิดต่อชีวิต และ
ความผิดต่อร่างกาย ในการวินิจฉัยต้องใช้หลักกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนาเป็นแนวทางในการพิจารณา เช่น
ผู้กระทําใช้ปืนยิงไปที่ผู้เสียหาย โดยยิงไปที่อวัยวะสําคัญๆ ต้องถือว่าประสงค์ต่อผลหรือมุ่งหมายให้
ผู้เสียหายตาย แต่ถ้าใช้มีดเล็กๆ แทงทีเดียวในเวลามืดคํ่าขณะที่มองเห็นไม่ถนัด อาจต้องถือว่าประสงค์
หรือมุ่งหมายต่ออันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้เสียหายเท่านั้นก็ได้
เจตนาเล็งเห็นผล หมายความว่า ผู้กระทําไม่ประสงค์ต่อผลแต่เล็งเห็นได้ว่าจะเกิดผลอย่างแน่นอน เท่าที่
จิตใจของบุคคลในฐานะเช่นเดียวกับผู้กระทําโดยปกติเล็งเห็นได้
ในการวินิจฉัยนั้น ให้พิจารณาถึงเรื่องประสงค์ต่อผลก่อน หากพิจารณาเห็นว่าผู้กระทําไม่ประสงค์ต่อผล
จึงค่อยมาพิจารณาต่อไปว่าผู้กระทําเล็งเห็นผลหรือไม่ เจตนาประสงค์ต่อผลหรือเล็งเห็นผลก็มีผลทาง
กฎหมายอย่างเดียวกัน กล่าวคือถ้าเป็นเจตนาฆ่าประเภทประสงค์ต่อผล ผู้กระทําก็ผิดฐานฆ่าคนตายโดย
เจตนา ตาม ปอ.มาตรา 288 ถ้าเป็นเจตนาฆ่าประเภทเล็งเห็นผล ผู้กระทําก็ผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
ตาม ปอ. มาตรา 288 เช่นเดียวกัน
เจตนาพิเศษคือ มูลเหตุจูงใจในการกระทําความผิด เจตนาพิเศษเป็นคนละกรณีกับเจตนาธรรมดา เจตนา
ธรรมดาคือประสงค์ต่อผลหรือเล็งเห็นผล
ความผิดใดกฎหมายต้องเจตนาพิเศษ ก็จะบัญญัติถ้อยคําที่แสดงว่าเป็นเจตนาพิเศษไว้ในองค์ประกอบ
ของความผิดนั้นๆ โดยตรง เช่น คําว่า “โดยทุจริต” ถือว่าเป็นเจตนาพิเศษ ของความผิดฐานลักทรัพย์ตาม
ปอ.มาตรา 334 คําว่า “เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง” เป็นเจตนาพิเศษของของ
ความผิดฐานปลอดเอกสารตาม ปอ. มาตรา 264