Page 4 - ระลึกถึง นพ จอห์น เจ กุยเยอร์ และ อ เบ็ทซี่ กุยเยอร์
P. 4
ไปเยี่ยมสำนักงานใหญ่ที่รับผิดชอบภารกิจต่างประเทศของคริสตจักรเพรสไบทีเรียน และได้บอกกับเจ้าหน้าที่
ไปว่า ข้าพเจ้าสนใจที่จะไปช่วยงานประกาศต่างประเทศแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจแน่นอน เนื่องจากข้าพเจ้ากำลังฝึก
อบรมที่จะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม ข้าพเจ้าคิดว่า ข้าพเจ้าต้องไปอยู่ในโรงพยาบาลที่มีศัลยแพทย์
ร่วมงาน ซึ่งอาจเป็นที่ประเทศจีนหรืออินเดียก็ได้ ก่อนที่ข้าพเจ้าจะจบการฝึกอบรมดังกล่าว เมาเซตุงได้ปฏิวัติ
วัฒนธรรมและได้ยุติบทบาททุกอย่างของมิชชันนารีต่างประเทศ จึงเหลือทางเลือกเพียงอินเดียแต่เพียงประเทศ
เดียว ข้าเจ้าจึงอ่านหนังสือทุกเล่มเท่าที่จะหามาอ่านได้เกี่ยวกับประเทศอินเดีย
ในราวต้นปี 2495 ขณะที่ข้าพเจ้าใกล้จะจบจากการ
อบรมแพทย์ประจำบ้าน ข้าพเจ้าจะต้องตัดสินใจแล้วว่า
ข้าพเจ้าจะไปประกอบอาชีพแพทย์ ณ ที่แห่งใด ไม่มีที่ใด
ในประเทศสหรัฐอเมริกาที่คิดว่าเหมาะสมกับข้าพเจ้า
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงต้องตัดสินใจไปทำงานต่างประเทศ
ในฐานะเป็นแพทย์มิชชันนารี เมื่อข้าพเจ้าติดต่อไปยัง
สำนักงานคริสตจักรเพรสไบทีเรียน ก็ได้ข้อมูลมาว่า
ทุกแห่งในประเทศอินเดียที่ต้องการอายุรแพทย์ตำแหน่ง
เต็มจากการโอนย้ายของแพทย์มิชชันนารีที่ย้ายจาก
ประเทศจีน คริสตจักรเพรสไบทีเรียนเสนอตำแหน่งว่างที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค เชียงใหม่ ประเทศไทย หรือ
หากข้าพเจ้าไม่ต้องการ คริสตจักรเพรสไบทีเรียนก็จะติดต่อไปยังประเทศอิหร่าน ว่าต้องการอายุรแพทย์หรือไม่
ข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าเคยรู้เรื่องของประเทศไทยมาบ้างจากการอ่านหนังสือเรื่องแอนนาและพระเจ้ากรุงสยาม
(เรื่องเกี่ยวกับแอนนา เลียวโนเวนส์) และเคยดูภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวมา ข้าพเจ้าและภรรยามีความรู้สึกว่า
ประเทศไทยเหมือนจะเป็นที่ที่ข้าพเจ้าจะต้องไป ข้าพเจ้าจึงไม่ได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเทศอิหร่าน
ในช่วงนั้นข้าพเจ้าอยู่ที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไอโอ คนไทยคนแรกที่ข้าพเจ้าพบ (หลังจากที่ได้ทราบข้อมูลว่าทาง
เชียงใหม่ต้องการอายุรแพทย์) คือ อาจารย์ประจิม พงศ์พิพัฒน์ซึ่งกำลังศึกษาต่อที่นั่น อาจารย์ประจิมได้แนะนำ
ข้าพเจ้าให้รู้จักแพทย์โรคผิวหนังชาวไทย ซึ่งกำลังศึกษาต่อที่คลีฟแลนด์ ชื่อ นายแพทย์สุนิตย์ เจิมศิริวัฒน์ ต่อมา
ข้าพเจ้าและภรรยาได้พบอาจารย์ทองม้วน สุขะจรัส ที่นิวยอร์ก จนกระทั่งประมาณอีก 1 เดือนก่อนที่ข้าพเจ้า
จะจบหลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน ข้าพเจ้าและภรรยาได้เข้าร่วมประชุมของแพทย์มิชชันนารี ที่ชิคาโก
และได้พบกับนายแพทย์เลวิส บิสเซลล์และภรรยาซึ่งอยู่ในระหว่างการพักผ่อนหลังจากทำงานที่โรงพยาบาล
แมคคอร์มิคได้ 5 ปี
ข้าพเจ้าและภรรยาลงเรือที่ซานฟรานซิสโก ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2495 ที่ซานฟรานซิสโก ข้าพเจ้าและภรรยา
ได้พบอาจารย์รัศมี คันธเสวี (มโนมูล) ซึ่งกำลังศึกษาต่อด้านโภชนาการ เพื่อเปิดแผนกโภชนาการขึ้นที่โรงพยาบาล
แมคคอร์มิค เรือของเราออกช้ากว่ากำหนด เราจึงไปลอสแองเจลิส เพื่อเยี่ยมเยียนครอบครัวของหมอบิสเซลล์
อีกครั้ง และได้พบกับนายแพทย์มาร์แชล เวลส์ และภรรยา ซึ่งประจำอยู่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียนและ
อยู่ระหว่างพักผ่อนเช่นกัน
ก่อนจะมาถึงเมืองไทย (1) 2/2
จุลสารระลึกถึงนายแพทย์จอห์น เจ กุยเยอร์
และอาจารย์เบ็ทซี กุยเยอร์