Page 9 - ระลึกถึง นพ จอห์น เจ กุยเยอร์ และ อ เบ็ทซี่ กุยเยอร์
P. 9

ก่อนจะมาถึงเมืองไทย (3)


                                                                 How I came to Thailand


                                                                       นายแพทย์จอห์น เจ กุยเยอร์





                   ในปีแรกที่ผมกำลังเรียนภาษาไทยอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของบริษัทบอร์เนียว จากลอนดอน

             อังกฤษ มาตรวจงานที่เชียงใหม่แล้วเกิดทำมีดบาดนิ้วมือ จึงให้หมอในท้องถิ่นผู้หนึ่งทำแผลให้พร้อมทั้งฉีดวัคซีน
             กันบาดทะยักให้ โดยไม่ได้ทดสอบการแพ้ที่ผิวหนังเสียก่อน นับว่าเป็นความโชคร้ายอย่างยิ่งที่ผู้ป่วยรายนี้เกิด

             แพ้ซีรั่มที่สังเคราะห์จากม้า ทำให้เกิดอาการหอบอย่างหนัก ผมถูกตามมาดูผู้ป่วยรายนี้ที่โรงพยาบาลและได้ให้
             adrenalin ทางเส้นเลือด อาการหอบของเขาหายแต่มีความดันโลหิตสูง ผมสงสัยว่าเขาจะมีอาการทางโรคหัวใจ

             (Myocardial infarction) ด้วย แต่ในตอนนั้นโรงพยาบาลยังไม่มีเครื่องตรวจ Electrocardiograph (E.C.G)
             ผมได้แสดงความห่วงใยในเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมงานของเขาที่บริษัทบอร์เนียว พวกเขาจึงจัดการส่งเครื่อง E.C.G

             จากกรุงเทพฯ ขึ้นมาให้ผมใช้ตรวจผู้ป่วยระดับ V.I.P จากลอนดอนคนนี้ ผลปรากฏว่าเขาไม่ได้มีความผิดปกติ
             เกี่ยวกับหัวใจ และได้หายเป็นปกติในเวลาต่อมา ผมถือโอกาสใช้เครื่อง E.C.G ตรวจผู้ป่วยอีก 2 - 3 ราย

             ที่ผมเห็นว่ามีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจด้วย
                   เราเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านในเดือนมิถุนายน 1957 โดยบินไปลงที่ฮ่องกง แล้วเดินทางต่อทางเรือผ่าน

             ญี่ปุ่นไปซานฟรานซิสโก เราใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในชิคาโก เนื่องจากอาจารย์เบ็ทซี่กำลังทำงานวิจัยและเขียน

             วิทยานิพนธ์ ปริญญาโทสาขา Medical Physiology ที่คณะแพทยศาสตร์ University of Illinois คริสตจักร
             Highland Park Presbyterian ที่ Illinois ได้มอบเครื่อง E.C.G ยี่ห้อ Sandborn ให้ผมในขณะที่อยู่ใน Illinois

             ผมได้ใช้เวลาหลายเดือน ศึกษาโรควัณโรคที่โรงพยาบาลโรคปอดของเทศบาลเมือง Chicago ได้ศึกษาการอ่าน
             ผลจากเครื่อง E.C.G ได้สังเกตการณ์การทำ barium กระเพาะและลำไส้ ได้ดูการชัณสูตรศพ 2 - 3 ราย ที่

             อาจารย์ผู้สอนวิชาพยาธิวิทยาผมเป็นผู้ผ่า เพื่อผมจะสามารถทำการชัณสูตรศพได้ถ้าจำเป็นเมื่อกลับมาอยู่เชียงใหม่
                   ก่อนที่การเยี่ยมบ้านของเราจะเสร็จสิ้น ผมได้พบกับหมอ Harold และหมอ Harriet Hanson สามีเป็น

             ศัลยแพทย์ ส่วนภรรยาเป็นหมอกุมารเวช ทั้งสองคนกำลังอยู่ปีสุดท้ายของการเป็นแพทย์ประจำบ้านในซานฟราน
             ซิสโก ท่านทั้งสองกำลังใคร่ครวญอย่างจริงจังว่า จะมาช่วยทำงานที่เมืองไทย






                                                                                      ก่อนจะมาถึงเมืองไทย (3) 1/3
                                                                                 จุลสารระลึกถึงนายแพทย์จอห์น เจ กุยเยอร์
                                                                                        และอาจารย์เบ็ทซี กุยเยอร์
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14