Page 3 - รักพิลึก
P. 3
3
อย่างระมัดระวัง แต่พอลงมายืนบนชานชาลาก็ต้องตกใจ เพราะมีคนที่คุ้นเคยมา
ยืนยิ้มแฉ่งรออยู่บนชานชาลาแล้ว
“ว่าไงกฤต มาช้าจังนะมึง?” เจ้าของรอยยิ้มที่ตะโกนทักเสียงดังนั้น
คือ “ดนัย” เพื่อนสนิทของผมอีกคนหนึ่งที่บ้านอยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก หลังจาก
เรียนจบผมก็เลือกที่จะท างานต่อที่กรุงเทพฯ แต่เขาเลือกที่จะกลับมาช่วยที่บ้าน
ขายของอยู่ที่บ้านเกิดนี้!
“อ้าว.. ก็แล้วมึงรู้ได้ยังไงว่ากูจะกลับมากับรถเที่ยวนี้?” เท่าที่จ าได้
ผมไม่ได้บอกมันล่วงหน้าเลยซักนิดว่าผมจะกลับมาร่วมงานนี้
“ก็กูไปถามแม่มึงมานี่หว่า....!” เขาพูดแล้วแสยะยิ้ม ผมรู้สึกดีใจใน
ท่าทางนั้น ดูๆไปแล้วระยะเวลาที่ผ่านเลยมา มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงเพื่อนคนนี้ของ
ผมไปเท่าไหร่เลย ดนัยนิสัยทะเล้นอย่างไรก็ยังคงทะเล้นอยู่อย่างนั้น..!
“ไปๆ กูเอารถมาเดี๋ยวกูแวะไปส่ง” ดนัยฉุดแขนผมกึ่งดึงกึ่งลากไปยังรถ
เก๋งคันงามโดยที่ผมไม่ทันจะตั้งตัว พอผมเห็นรถเก๋งป้ายแดงใหม่เอี่ยมจอดอยู่ ผม
ก็พอจะเข้าใจแล้วว่าที่จริงดนัยมันไม่ได้กะจะมารับผมหรอก แต่มันจะเอารถคัน
ใหม่มาอวดผมที่ไม่ได้เจอกันมานานมากกว่า... ช่างเป็นคนที่กวนบาทาได้เสมอต้น
เสมอปลายได้ดีจริงๆ!!!
รถคันงามบ่ายหน้าจากถนนใหญ่สู่ถนนซีเมนต์เก่าๆ ที่ถูกปกคลุมไปด้วย
พันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับหนาทึบตลอดสองข้างทางอย่างช้าๆ ส าหรับผมแล้วยิ่งรถ
แล่นเข้าไปใกล้บ้านซักเท่าไหร่ กลิ่นที่รู้สึกคุ้นเคยก็ยิ่งลอยมาเตะจมูกมากขึ้น
เท่านั้น มันเป็นกลิ่นดินที่หอมหวนเคล้ากลิ่นหญ้าของบ้านเกิดที่ท าให้ผมรู้สึก
อบอุ่น และสบายใจจากความเครียดในการท างานที่สะสมมาอย่างที่สุด..! เวลา
ผ่านไปอีกเล็กน้อยรถจึงวิ่งมาหยุดอยู่หน้าบ้านปูนชั้นเดียวกลางสวนผลไม้ ที่ผมใช้
เป็นที่อาศัยมาตลอดในระยะเวลาสิบกว่าปี...!!
“วันงานให้กูมารับไหม?” ดนัยหันมาถาม ตอนที่รถจอดสนิทแล้ว