Page 110 - สุขศึกษา พลศึกษา ม.ต้น
P. 110

110



                   อีกเล็กนอย วิธีรับประทานใหรินน้ําสมุนไพรใสถวยหรือแกว หรือจะใชถวยหรือแกวตักเฉพาะน้ําขึ้นมาใน
                   ปริมาณพอสมควร หรือศึกษาจากผูขายยาบอก ยาตมบางชนิดสามารถใชไดเกินกวา 1 ครั้ง ดวยการเติมน้ําลงไป
                   แลวนํามาตมแลวเคี่ยวอีกจนกวารสยาจะจืดจึงเลิกใช เรามักเรียกยานี้วา “ยาหมอ” จะมีรสชาติและกลิ่นที่ไมนา

                   รับประทาน น้ําหนักของสมุนไพรที่นํามาตมนั้น           แตละชนิดมักจะชั่ง ซึ่งมีหนวยน้ําหนักเปนบาท ตามรานที่
                   ขายจะมีเครื่องชั่งชนิดนี้ แตถาหมอที่จายยา         ไมชั่งก็จะใชวิธีกะปริมาณเอง ในการตมยานี้ถาเปนสมุนไพรสด

                   จะออกฤทธิ์ดีกวาสมุนไพรแหง แตตามรานขายยาสมุนไพรมักเปนสมุนไพรแหงเพราะจะเก็บไวไดนานกวา

                                 2.  ยาผง  เปนสมุนไพรที่นํามาบดใหเปนผง ซึ่งตามรานขายขาสมุนไพรจะมีเครื่องบด โดย

                   คิดคาบดเพิ่มอีกเล็กนอย อาจเปนสมุนไพรชนิดเดียวหรือหลายชนิดก็ไดที่นํามาบดใหเปนผง แลวนํามาใสกลอง
                   ขวด หรือถุง วิธีรับประทานจะละลายในน้ําแลวใชดื่มก็ได หรือจะตักใสปากแลวดื่มน้ําตามใหละลายในปากได

                   ปจจุบันมีการนํามาใสแคปซูล เพื่อสะดวกในการรับประทาน พกพา และจําหนาย

                                 3.  ยาชง  วิธีเตรียมจะงายและสะดวกกวายาตม มักมีกลิ่นหอม เตรียมโดยหั่นเปนชิ้นเล็ก ๆ

                   ตากหรืออบใหแหงแลวนํามาชงน้ําดื่มเหมือนกับการชงน้ําชา ปจจุบันมีสมุนไพรหลายอยางที่นํามาชงดื่ม มักเปน
                   สมุนไพรชนิดเดียว เชน ตะไคร หญาหนวดแมว ชาเขียวใบหมอน หญาปกกิ่ง เปนตน ในปจจุบันมีการนํา
                   สมุนไพรมาบดเปนผงแลวใสซองมีเชือกผูกติดซอง ใชชงในน้ํารอนบางชนิดมีการผสมน้ําตาลทรายแดงเพื่อใหมี

                   รสชาติดีขึ้นแลวนํามาชงกับน้ํารอนดื่ม ซึ่งทั้งสองรูปแบบนี้มีขายอยูทั่วไป



                                 4.  ยาลูกกลอน  เปนการนํายาผงมาผสมกับน้ําหรือน้ําผึ้งแลวปนเปนลูกกลม ๆ เล็ก ๆ วิธี

                   รับประทานโดยการนํายาลูกกลอนใสปาก ดื่มน้ําตาม
                                 5.  ยาเม็ด  ปจจุบันมีการนํายาผงมาผสมน้ําหรือน้ําผึ้งแลวมาใสเครื่องอัดเปนเม็ด เครื่องมือนี้
                   หาซื้อไดงาย มีราคาไมแพง ใชมือกดได ไมตองใชเครื่องจักร ตามสถานที่ปรุงยาสมุนไพรหรือวัดที่มีการปรุงยา

                   สมุนไพรมักจะซื้อเครื่องมือชนิดนี้มาใช
                                 6.  ยาดองเหลา  ไดจากการนําสมุนไพรมาใสโหลแลวใสเหลาขาวลงไปใหทวมสมุนไพร
                   ปดฝาทิ้งไวประมาณ 1-6 สัปดาห แลวรินเอาน้ํามาดื่มเปนยา ปจจุบันมีการจําหนายเปน         “ซุมยาดอง” ซึ่งมีให

                   พบเห็นอยูบาง
                                 7.  นํามาใชสด ๆ  อาจนํามาใชทาบาดแผล หรือใชทาแกพิษ เชน วานหางจระเข ผักบุงทะเล
                   เปนตน  นํามาตําใหแหลกแลวพอติดไวที่แผล เชน หญาคา ใบชุมเห็ด เปนตน  นํามายางไฟแลวประคบ เชน ใบ

                   พลับพลึง เปนตน หรือนํามาใชเปนอาหาร เชน หอม กระเทียม กลวยน้ําวา ขา ขิง ใบบัวบก เปนตน
   105   106   107   108   109   110   111   112   113   114   115