Page 184 - พท21001
P. 184

175


                           6)  การพัฒนาองคความรูในตนเอง นักจัดรายการวิทยุ ตองหมั่นแสวงหาความรูติดตาม
                  ขาวสารขอมูลทุกดานอยางสม่ําเสมอ เพื่อนํามาใชเปนขอมูลในการพัฒนาการจัดรายการวิทยุ

                  ใหนาสนใจอยูตลอดเวลา รวมทั้งตองแสวงหาความรูในดานการประเมินผล เพื่อใชประโยชน
                  ในการประเมินผลการปฏิบัติหนาที่ของตนเองดวยรูปแบบวิธีการตาง ๆ ที่จะกอใหเกิดการพัฒนาอาชีพ

                  ใหดียิ่งขึ้น

                         แหลงที่ควรศึกษาเพิ่มเติม
                         แหลงที่ควรศึกษาเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มพูนความรูในอาชีพนี้ ไดแก

                         1.  สถาบันฝกอบรมของเอกชน ซึ่งผูเรียนสามารถหาขอมูลรายชื่อไดจากอินเตอรเน็ต

                         2.  หนวยงานของทางราชการ ไดแก กรมประชาสัมพันธ สถาบันสงเสริมการศึกษานอกระบบ
                  และการศึกษาตามอัธยาศัยภาคตาง ๆ

                         3.  สถานศึกษาตาง ๆ ของรัฐบาล เชน ผูที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนตน ตองศึกษา

                  ตอในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และเขาศึกษาตอในคณะนิเทศศาสตร คณะวารสารศาสตร
                  คณะศิลปะศาสตร คณะอักษรศาสตร ถาเขาศึกษาในคณะศิลปะศาสตร หรืออักษรศาสตรตองอบรม

                  เพิ่มเติมในเรื่องเทคนิคการจัดรายการวิทยุเพิ่มเติม
                  3.  อาชีพพิธีกร

                         เปนอาชีพที่ผูประกอบอาชีพตองมีพื้นฐานความรูในเรื่องการพูดเปนอยางดี เพราะเปนอาชีพ

                  ที่ตองใชการพูดเปนเครื่องมือในการสื่อสารกับผูอื่น การใชคําพูดและถอยคําภาษาจึงเปนเรื่องสําคัญตอ
                  การสรางความรูสึกที่ดีหรือไมดีตอผูฟง นอกจากนี้บุคลิกภาพและการแตงกายของผูทําหนาที่พิธีกรก็เปน

                  อีกเรื่องหนึ่งที่จะดึงดูดความสนใจของผูฟง  รวมทั้งควรเปนผูที่ตรงตอเวลา เพื่อเปนความเชื่อถือ
                  ในวิชาชีพไดสวนหนึ่ง

                         องคความรูที่ควรศึกษาเพิ่มเติม

                         ในการเพิ่มพูนองคความรูในการประกอบอาชีพพิธีกร ควรศึกษาเนื้อหาความรูที่จะนําไปใชใน
                  การพัฒนาอาชีพ ในเรื่องตอไปนี้

                         1.  ศิลปะการพูดหรือศิลปะการใชภาษา เพราะอาชีพพิธีกร เปนอาชีพที่ตองอาศัยศาสตร

                  (ความรู) และศิลปของการพูดเปนอยางมาก ซึ่งตองอาศัยการฝกฝนบอย ๆ
                         2.  ระดับของภาษา ซึ่งเปนเรื่องของการศึกษาถึงความลดหลั่นของถอยคํา และการเรียบเรียง

                  ถอยคําที่ใชตามโอกาส กาลเทศะ และความสัมพันธระหวางบุคคลที่เปนผูสงสารและผูรับสาร
                  ซึ่งกลุมบุคคลในสังคมแบงออกเปนหลายกลุมหลายชนชั้นตามสภาพอาชีพถิ่นที่อยูอาศัย ฯลฯ ภาษาจึงมี

                  ความแตกตางกันเปนระดับตามกลุมคนที่ใชภาษา เชน ถอยคําที่ใชกับพระภิกษุสงฆและพระราชวงศ

                  อาจใชถอยคําภาษาอยางหนึ่ง ภาษาของนักเขียนหรือกวีที่สื่อสารถึงผูอาน ก็จะใชภาษาอีกอยางหนึ่ง
                  เปนตน ดังนั้น ผูใชภาษาจึงตองคํานึงถึงความเหมาะสม และเลือกใชใหถูกตองเหมาะสม กับกาลเทศะ

                  และบุคคล
   179   180   181   182   183   184   185   186   187   188   189