Page 74 - วชาปรบอากาศรถยนตรโปรเเกรม
P. 74

64


                       หลักการอย่างง่ายๆ อีกกรณีหนึ่งคือ การพิจารณาอุณหภูมิแตกต่างระหว่าง ใ น

               ห้องโดยสารซึ่งควรต่างกันไม่ต ่ากว่า 18 ฟ หรือ 10 ซ ขึ้นไป จึงจะจัดได้ว่าระบบ ปรับ

               อากาศมีประสิทธิภาพดีแสดงยันตอนการหาประสิทธิภาพระบบปรับอากาศรถยนต์


                      1. สตาร์ทเครื่องยนต์ เปิดระบบปรับอากาศไว้ประมาณ 10 นาที

                      2. ใช้เทอร์โมมิเตอร์กระเปาะแห้งและกระเปาะเปียก วัดอุณหภูมิในห้องโดยสาร

                      3. น าค่าอุณหภูมิทั้งสองหาค่าความชื้นสัมพัทธ์ในกราฟ


                      4. วัดอุณหภูมิระหว่างลมเข้า กับลมออกของอีวาปอเรเตอร์และน าค่าทั้งสองลบกัน

               จะได้ ค่าแตกต่างของอุณหภูมิ

                     5. น าค่าความชื้นสัมพัทธ์ และอุณหภูมิแตกต่างระหว่างลม  เข้ากับลมออกหาค่า


               ประสิทธิภาพ ระบบปรับอากาศในกราฟ

                       จากตัวอย่าง ผลต่างอุณหภูมิกระเปาะแห้งของอากาศเข้า – ลมเย็นออก = 19 ซ

               และค่าความชื้นสัมพัทธ์ = 60% น ามาหาจุดร่วมบนกราฟ ปรากฏว่าจุดร่วมอยู่ ในแนว


               เส้นทึบ แสดงว่าประสิทธิภาพระบบปรับอากาศรถยนต์อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน หลังจาก

               ทดสอบประสิทธิภาพแล้ว ให้ปิดสวิตช์พัดลมและสวิตซ์เทอร์มอสแตตก่อนที่จะดับ

               เครื่องยนต์ อ่านค่าความดันบนเกจทั้งสองด้าน เมื่อค่าความดันเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน


               (แตกต่างกันไม่เกิน  10 ปอนด์/ตร.นิ้ว) จึงถอดสายเกจออกจากลิ่นบริการ  เอง

               คอมเพรสเซอร์ทั้งสองด้านโดยพยายามให้สารท าความเย็นรัวไหลได้นอน ควรสวม

               แว่นตานิรภัยขณะถอดสายเกจ  132 การถอดสายเกจออก  ให้กดสายเกจเข้าไปในดิน


               บริการแล้วรีบถือสายเกจออกให้เร็วที่สุด จะช่วยให้สารท าความเย็นรัวไหลได้น้อยปิดฝา

               ครอบลินบริการคอมเพรสเซอร์  ทบทวนขั้นตอน การทดสอบประสิทธิภาพระบบปรับ

               อากาศรถยนต์ ท าความสะอาดและจัดเก็บเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ และบริเวณ


               ปฏิบัติงาน
   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79