Page 43 - Book
P. 43
คุณณัฐพล งั้นผมขออนุญาติอธิบายแล้วกันครับ สมมุติว่าศิลปะมันจะย้อนกลับไปช่วงแรก ๆ ที่ศิลปะมัน
ท าเพื่อเข้าไปสู่จุด ๆ หนึ่ง ไปยึดเหนี่ยวบางอย่าง ตั้งค าถามกับบางอย่าง แล้วก็เอาอันนี้เป็น
หลักยึด แล้วก็ Process มันขึ้นไปจนออกมาเป็นงานศิลปะ กับความเชื่อหรือชุดความคิดที่
เป็นศาสนามันเป็น Concept พอมันเป็น Concept มันก็เป็นหลักยึด พอมันเป็นหลักยึด
ผ่านชุด Concept นี้มันก็ด าเนินต่อไป ซึ่งถ้ามองโดยบริบทมันคือเท่ากัน มันคือรูปแบบ
เดียวกัน ผมก็เลยสรุปแบบไม่รู้เรื่องครับว่าศิลปะมันคือศาสนา เพราะว่าจริง ๆ แล้วมันคือ
การยึดบางอย่าง มันเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ ถ้าศาสนามัน Function ของมันจริง ๆ มันคือ
การสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจของคน การกระท าในการสร้างงานศิลปะมันก็
เป็นการกระท าอย่างหนึ่งที่ไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจของคน ยกค าว่าอุดมการณ์มาก็ได้ คิดว่ามุมมอง
ในมุมนี้เป็นยังไง ?
ดร. วิชญ ถ้าพูดแบบนั้นก็คงเป็นไปได้ แต่ก็อย่างที่บอกศสานามันก็มองได้หลายแบบ ศิลปะก็มองได้
หลายแบบ ถ้ามองแบบนี้ก็อาจจะ OK ไปด้วยกันได้ แต่ก็มีวิธีการมองอีกหลายแบบ คือมันก็
ไม่เหมือนกัน
คุณณัฐพล แต่มันอาจจะไม่ใช่ ‘คือ’ ใช่ไหม ?
คุณธนญชัย บอลเป็นน่ารัก พี่จะตอบแบบกวนตีนมากเลย
คุณณัฐพล ไม่เป็นไรครับ
คุณธนญชัย ได้หรอ
คุณณัฐพล มันได้ครับ
ดร. วิชญ ไม่เป็นไรครับพี่ จัดเลย
คุณธนญชัย ค าตอบพี่ก็คือ อย่าไปสนใจมันเลย
คุณณัฐพล ใช่ไหมครับ
คุณธนญชัย ไปเขียนรูปเถอะ
คุณณัฐพล ไม่ต้องนิยามด้วย
คุณธนญชัย ใช่ ปวดหัว จะเขียนรูป ศิลปะคืออะไร มึงไม่ต้องท างานแล้ว ศิลปะคืออะไรวะ ไอ้เหี้ยกูคิดไม่
ออก ศิลปะคืออะไร มันเป็นคนละเรื่องกับมึงอะไปเขียนรูป
คุณณัฐพล อันนั้นมันคือฉันทะ ซึ่งมันติดอยู่ตั้งแต่แรก
คุณธนญชัย เออ ศิลปะคืออะไร มึงไม่ต้อง มึงก็ไปเขียนรูปไป ถึงมึงได้ค าตอบว่าศิลปะคืออะไรเดี๋ยวไอ้นั่น
มันก็จะมาเถียงมึงอีก มันไม่มีประโยชน์หรอก ท าในเรื่องที่มีประโยชน์คือไปเขียนรูปซะ อันนี้
ชัวร์ป๊าบเลย ก็นี่คือค าตอบ เราจะท าอะไรก็ได้
คุณณัฐพล (หัวเราะ) มีค าถามที่ว่าถ้าเกิดว่าศาสนาคือการฏิบัติ การท างานศิลปะก็คือการปฏิบัติเช่นกัน