Page 34 - แนวทางการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าปี 60
P. 34

แผนผังการตรวจทางหองปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยยืนยันโรคพิษสุนัขบาในคน
 แผนผังการตรวจทางหองปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยยืนยันโรคพิษสุนัขบาในคน


 เกณฑการพิจารณาสงตัวอยางผูปวยสงสัยโรคพิษสุนัขบา หรือ ไขสมองอักเสบที่ไมทราบสาเหตุ พิจารณาจาก
 1. ประวัติสัมผัสสัตว  ถูกสัตวเลี้ยงลูกดวยนม ไดแก สุนัข แมว หนู กระตาย กัด ขวน เลียบาดแผล
   ชำแหละสัตว หรือกินอาหารดิบที่ปรุงจากสัตวที่เปนโรคพิษสุนัขบา
 2. อาการทางคลินิก                                     มาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันควบคุม
   -  อาการนำ ไดแก มีไข ปวดศีรษะ ออนเพลีย คลื่นไสอาเจียน ปวดเมื่อยกลามเนื้อ ชา และเจ็บเสียวบริเวณแผลที่ถูกสัตวกัดรวมทั้งบริเวณใกลเคียง
     คันอยางรุนแรงที่แผลและตามลำตัว
   -  อาการทางระบบประสาท แบงเปน 3 กลุม ดังนี้    โรคพิษสุนัขบ้าในคน
     1.  Furious rabies อาการแบบคลุมคลั่ง ตื่นเตน กระวนกระวาย กลัวน้ำ กลัวลม กลืนลำบาก
       บวนหรือถมน้ำลายมากกวาปกติ หรือพบอาการทางสมองเปนอาการสำคัญ
     2.  Paralytic rabies อาการแบบอัมพาต แขนขาออนแรงเปนอาการสำคัญ
     3.  Atypical rabies ไมมีลักษณะอาการที่บงชี้ใหสงสัยวาเปนโรคพิษสุนัขบาดังเชน 2 กลุมแรก
   -  มีอาการของโรคไขสมองอักเสบที่ไมทราบสาเหตุ  มาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในคน ของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2560
               1.  มาตรการด้านการป้องกันโรค (Prevent)
 การสงตัวอยางผูปวยสงสัยโรคพิษสุนัขบา
 หรือ ไขสมองอักเสบที่ไมทราบสาเหตุ    1.1  พื้นที่เสี่ยงจัดท�าแผนป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า
 ตรวจทางหองปฏิบัติการ       1.1.1  อ�าเภอเสี่ยง จัดท�าแผนป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ตามมาตรการเชิงรุกที่กระทรวงสาธารณสุข

                             ก�าหนด
 กรณีผูปวยยังมีชีวิตอยู  กรณีผูปวยเสียชีวิต       1.1.2  ระบบสุขภาพอ�าเภอ (District Health System: DHS) ในพื้นที่จังหวัดเสี่ยงมีแผนป้องกันควบคุม
                             โรคพิษสุนัขบ้า
 เก็บเนื้อสมอง 3-5 ชิ้น
 (ชิ้นขนาดเทาเมล็ดถั่วเขียว)    1.2  พัฒนาระบบการประสานงานเพื่อรองรับสถานการณ์ กรณีพบสัตว์สงสัย ผู้สัมผัสหรือสงสัยเป็นโรค
                       พิษสุนัขบ้า

 เก็บสิ่งสงตรวจอยางนอย 3 ชนิด ไดแก  วิธีการเก็บตัวอยาง  ใชเข็ม Trucut (ที่ใชทำ liver หรือ kidney biopsy)    1.3  พัฒนาระบบเฝ้าระวังโรค และระบบข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้มีความครอบคลุม สามารถน�าข้อมูลไปใช้
   - น้ำลาย 1-2 มล.  ก. เมื่อจะใชงาน ดึงเข็มชั้นในออกมาจนสุด จรดเข็มที่มุมหัวตาดานใน       ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
   - ปสสาวะ 10 มล.    ใหเข็มตั้งฉากกับพื้น คอยๆ ดันเข็ม ซึ่งจะเคลื่อนเขาไปในรูเบาตา
   - ปมรากผม อยางนอย 20 เสน  ข. ดันเข็มชั้นนอกเขาไปในรูเสนประสาทตาตรงบริเวณโพรงเบาตา คอยๆ     1.4  พัฒนาระบบการเก็บ/ส่งตัวอย่างและการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยยืนยันโรคพิษสุนัขบ้า
   - น้ำไขสันหลัง 1-2 มล.    เคลื่อนเข็มผานเขาไปในเนื้อสมองตามความลึกและทิศทางที่ตองการ        กรณีพบผู้ป่วย/ผู้เสียชีวิตที่สงสัยโรคพิษสุนัขบ้าหรือไข้สมองอักเสบที่ไม่ทราบสาเหตุทุกราย
 ขอควรระวัง  ค. ดันเข็มชั้นในอยางแรง (ตบเข็ม) จนสุดปลายเข็ม บริเวณปลายเข็มชั้นใน    1.5  จัดให้มีบริการวัคซีน/อิมมูโนโกบุลิน ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสถานบริการสาธารณสุขอย่างเพียงพอ
   - ในวันแรกเก็บสิ่งสงตรวจอยางนอย 3 ชนิด หากผลตรวจเปนลบ    จะทะลุเขาไปในเนื้อสมอง จับเข็มชั้นในไมใหเคลื่อนที่
    ตองสงตัวอยางตอใหครบ 3 วัน โดยเก็บตัวอยางอยางนอย 1 ชนิด   ง. ดึงเข็มออกมาพรอมๆ กัน    1.6  พัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับให้มีความรู้ใน
     ควรเก็บวันละ 2-3 ครั้ง หางกัน 3-6 ชั่วโมง  จ. ดันแกนเข็มชั้นในออก เนื้อสมองจะติดอยูในรองของเข็มชั้นใน       การวินิจฉัยดูแลรักษาผู้สัมผัสโรคอย่างถูกต้องตามแนวทางเวชปฏิบัติ และการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุม
   - น้ำลายมีความไวในการตรวจสูงกวาปสสาวะ น้ำไขสันหลัง หรือ  ฉ. ใสเนื้อสมองลงในภาชนะปลอดเชื้อ       โรคพิษสุนัขบ้า
     ปมรากผม จึงควรสงตรวจรวมดวยทุกครั้ง  สามารถทำไดหลายๆ ครั้ง หลายทิศทาง เพื่อใหไดเนื้อสมองหลายๆ สวน
          ดูวิดีโอสาธิตไดที่ www.cueid.org หัวขอ E-learning    1.7  สื่อสารความเสี่ยงเชิงรุกทั้งก่อน-หลังถูกกัด ให้เหมาะสมและครอบคลุมประชากรกลุ่มเสี่ยง ทั้งในชุมชน
                       บ้าน วัด โรงเรียน ตลาด โรงงาน เป็นต้น
 -  เก็บตัวอยางใสภาชนะปลอดเชื้อ ปดฝามิดชิด พันดวยพาราฟนหรือเทปที่ปดแนน จากนั้นบรรจุในถุงพลาสติกกันน้ำอีกชั้น มัดถุงใหแนน
 -  ภาชนะบรรจุตัวอยางตองติดฉลาก ชื่อ-นามสกุล และวันที่เก็บตัวอยางใหชัดเจน พรอมแบบนำสงตัวอยาง ประวัติและอาการผูปวย    1.8  ส่งเสริมการน�ากฎหมายที่เกี่ยวข้องมาบังคับใช้ รวมทั้งปรับปรุงกฎระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับ
 -  ระหวางรอสงตรวจ แชสิ่งสงตรวจในตูเย็นธรรมดา หามแชแข็ง       การด�าเนินงานป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าให้เหมาะสม (พรบ.โรคพิษสุนัขบ้า 2535 / พรบ.
 -  ตองนำสงในภาชนะเก็บความเย็นที่บรรจุน้ำแข็งอยางเพียงพอ       การสาธารณสุข 2535 (การเลี้ยงและปล่อยสัตว์) พรบ.โรคติดต่อ 2558)
 -  สงหองปฏิบัติการภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเก็บสิ่งสงตรวจ
 -  โทรแจงหองปฏิบัติการกอนการสงตัวอยางทุกครั้ง  2.  มาตรการด้านค้นหาและตรวจจับความผิดปกติ (Detect) :
 -  การเก็บตัวอยางควรทำดวยความระมัดระวัง ควรใสเสื้อกาวน  ถุงมือ  หนากากอนามัย  แวนตานิรภัย     2.1. ค้นหาผู้สัมผัสโรค (มีประวัติถูกสุนัขบ้ากัด-ข่วน) และกลุ่มเสี่ยงให้ได้รับการดูแลรักษาและฉีดวัคซีน
 -  ฆาเชื้ออุปกรณโดย แชน้ำยาตามคำแนะนำของแตละชนิด/ตมในน้ำเดือดอยางนอย 5 นาที/อบดวย Autoclave  ขยะกำจัดตามมาตรฐานขยะติดเชื้อ
                       ป้องกันโรคตามแนวทางเวชปฏิบัติภายใน 48 ชั่วโมง และติดตามให้มารับวัคซีนตามก�าหนดนัดทุกราย
 * การตรวจโดยวิธี PCR ทราบผลตรวจเร็วที่สุดภายใน 24 ชม. กรณีที่ไมพบความผิดพลาดของสิ่งสงตรวจหรือขั้นตอนการนำสงตัวอยาง    2.2. ส่งตัวอย่างตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการตามแนวทางที่ก�าหนด ในผู้ป่วยสงสัย หรือเสียชีวิตด้วย
                       โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคไข้สมองอักเสบที่ไม่ทราบสาเหตุทุกราย
                                            สงตัวอยางตรวจไดที่ หองปฏิบัติการชันสูตรโรคพิษสุนัขบา
 1. สถาบันวิจัยวิทยาศาสตรสาธารณสุข กรมวิทยาศาสตรการแพทย   โทร. 0 2589 9850 และ 0 2951 0000 ตอ 99205, 99312    2.3  ค้นหาปัจจัยเสี่ยงและพฤติกรรมของการไม่มารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
 2. ศูนยปฏิบัติการโรคทางสมอง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ   โทร. 0 2256 4000 ตอ 3562  โทรสาร 0 2652 3122
 3. ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตรศิริราชพยาบาล (ตรวจเฉพาะ PCR)   โทร. 0 2411 0263, 0 2419 8811  แนวทางการดำาเนินงานป้องกันควบคุม  29
                                                                                         โรคพิษสุนัขบ้า
 จัดทำโดย : สำนักโรคติดตอทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โทร 0 2590 3177-8  กรมควบคุมโรค
 สำนกโรคติดตอท่วไป
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39