Page 155 - รวมเล่ม บทที่ 1-252 Ebook
P. 155
131
ไม่เป็นตัวตน กลับยึดโยงกับทางสายกลาง
กล่าวคือ ยังทําความดีในฐานะ
แต่เป็นความรู้ ความเข ้าใจ ที่ยังเป็นปุถุชนในโลกสมมุติ
เพียงผิวเผิน ไม่ประทับเข ้าไป
ในใจอย่างแท ้จริง ไม่หยั่งราก แต่ให ้เป็นการกระทําความดี
ลึกอย่างที่เรียกว่า"การเข ้าถึง" อย่างปราศจากกิเลส หรือ
จึงทําให ้เกิดความไม่ต่อเนื่อง ให ้กิเลสน้อยที่สุด หรือยึดปรุง
ของสติสัมปชัญญะ ในเรื่อง อย่างแผ่วเบาที่สุดโดยมีฐาน
อนัตตา ของจิตอยู่กับความว่างแท ้หรือ
ธรรมชาติแท ้ ตลอดเวลา
จึงทําให ้ จิตเผลอไผล ในทุกอิริยาบถ
ไปกระทําผิดศีล
ได ้โดยง่าย และบ่อยๆ ■■บทเรียน#112■■
เพราะปุถุชนส่วนใหญ่ ===============
ยังคงใช ้ เวลาส่วนใหญ่ "ทางๆนี้ ให ้ความสําคัญ
ในชีวิตประจําวัน ข ้องเกี่ยวอยู่ กับความรู้ตัวทั่วพร ้อม
กับโลกสมมุติ อยู่ตลอดเวลา ตลอดเวลา
ว่าตนเองและรูปนามทุกสิ่ง
จึงเห็นได ้ชัดว่า เป็นมายา ไม่มีตัวตนจริง"
คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะ
ก ้าวหน้าในทางปฏิบัติ กล่าวอธิบาย คือในทุก
ส่วนการไม่ยึดปรุงนั้น อิริยาบทไม่ว่า ยืน เดิน นั่ง
นอนหรือแม ้แต่กระพริบตา
ทางๆนี้ ก็ถือเป็นเรื่องสําคัญ หรือทุกลมหายใจเข ้าออกของ
ที่เป็นแนวทางเดียวกับความ เราก็ขอให ้ตัวเรา มีความรู้ตัว
ว่างแท ้ที่ต ้องไปพร ้อมๆกัน ทั่วพร ้อมอยู่ตลอดเวลา
ว่า ร่างกายและจิตใจ
■■และอีกประเด็นหนึ่ง ของตัวเรา เป็นเพียงธาตุขันธ์
ที่ขอเพิ่มเติม เพื่อป้องกัน ไม่มีตัวตนจริง เกิดดับ
ความเข ้าใจผิด ตลอดเวลา
รวมทั้งรูปนามทุกสิ่ง ก็เช่นกัน
คือในทางๆนี้ มิได ้เน้นความ ความรู้สึกชนิดนี้ ขอให ้เป็น
ว่างแบบไม่ยึดถืออะไรเลย ฐานของจิตของตัวเรา
แบบสุดโต่งแต่ตรงกันข ้าม