Page 111 - ตามรอยพระศาสดา
P. 111
110
นึกถึงนางชนบทกัลยาณี คู่สมรสใหม่วันละหลายพันครั้ง จนถึงออกปากแก่
ภิกษุใกล้เคียงว่า “จะสึก สึกแน่ ทนความกระสันไม่ไหวแล้ว”
ความข้อนี้รู้ไปถึงพระพุทธเจ้า รับสั่งให้พาพระนันทะเข้ามาซักถาม
พระนันทะรับว่า คิดถึงนางชนบทกัลยาณี จะบวชต่อไปไม่ไหว คิดจะสึก
และกลับไปอยู่กบิลพัสดุ์
พระพุทธเจ้าทรงทราบเรื่องโลกไม่น้อยกว่าเรื่องธรรม จึงทรงบรรยาย
ถึงสิ่งที่งดงามของหญิงบางคนให้พระนันทะฟัง ซึ่งเมื่อฟังแล้วก็รู้ว่า นั่นคือ
ปมด้อยหรือสิ่งไม่เจริญตาของนางชนบทกัลยาณีนั่นเอง แล้วเปรียบเทียบ
ความงามของหญิงบางคน ที่พระองค์ได้พบมาแล้วในพระราชส�านักต่าง ๆ
ให้ฟัง ซึ่งตามค�าเหล่านั้นมองเห็นได้ว่า งามเหมือนนางฟ้า ท�าให้พระนันทะ
เห็นจริงไปว่า นางชนบทกัลยาณีที่พระนันทะหลงรักหนักหนานั้นยังสู้หญิง
บางคนที่พระพุทธเจ้าพบมาแล้วไม่ได้คนเราเมื่อมีหวังจะได้สิ่งดีกว่าที่มีอยู่แล้ว
สิ่งที่มีอยู่แล้วย่อมหมดค่า และลืมเลือนไปจากความทรงจ�า
เรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงเล่านั้น จะจัดเป็นภาพก็ได้ดังนี้
ล�าดับนั้น ทรงจูงมือพระนันทะส�าแดงพุทธานุภาพพาเหาะขึ้นสู่
ดาวดึงส์เทวโลก ในต�าบลระหว่างที่ขึ้นไป บันดาลให้พระนันทะเห็น
แม่ลิงตัวหนึ่ง นมยาน มีหูและจมูกและหางขาด นั่งอยู่บนตอไม้เพลิงไหม้
พระนันทะไม่ชอบลิงมาแต่ก่อน แต่ได้เหลียวดูหลายครั้งเพราะสงสาร รู้สึกว่า
ลิงตัวนี้อาภัพหนัก เกิดมาต�่าชาติแล้ว รูปสัณฐานยังพิกลพิการอีกเล่า
ซ�้ามานั่งอยู่ในที่อันไม่เจริญตาอีกด้วย
แล้วขึ้นไปถึงเทวโลก ส�าแดงให้พระนันทะเห็นนางเทพอัปสร
๕๐๐ ซึ่งแต่ละนางงามสะคราญ หาที่ติมิได้ ผมด�าสนิท หยิกเป็นก้อน
มีกระจังทองค�าประดับเพชรคาดศีรษะ ไว้กันผมปลิว ทัดดอกกุหลาบ
ตามรอยพระศาสดา