Page 130 - ตามรอยพระศาสดา
P. 130
129
คราวนั้น มหาชนได้โจษจันกันขึ้นว่า “แม้พระเจ้าพิมพิสารก็
พระเทวทัตนั่นเองเป็นผู้ให้ส�าเร็จโทษเสีย แม้นายขมังธนูก็พระเทวทัต
นั่นเองให้จัดหา แม้หินก็พระเทวทัตเหมือนกันกลิ้งลงมา และบัดนี้เธอก็ได้
ปล่อยช้างนาฬาคีรีอีก พระเจ้าอาชาตศัตรูทรงเที่ยวคบคนลามกเห็นปานนี้
ได้อย่างไรนะ อยากรู้จัง”
พระเจ้าอชาตศัตรูทรงสดับถ้อยค�าของมหาชนแล้ว จึงรับสั่งให้เลิก
อุปัฏฐากพระเทวทัต มิได้เสด็จไปหาพระเทวทัตนั้นอีก ชาวบ้านก็เลิก
สนับสนุนเหมือนกัน
พระเทวทัตเสื่อมจากลาภและสักการะแล้ว จึงคิดจะเลี้ยงชีวิต
ด้วยการหลอกลวง ดิ่งเข้าไปเฝ้าพระพุทธองค์ ทูลขอวัตถุ ๕ ประการ ถูก
พระพุทธเจ้าทรงห้ามว่า
“อย่าเลย เทวทัต ผู้ใดปรารถนา ผู้นั้นก็จงเป็นผู้อยู่ป่าเถิด”
พระเทวทัตกล่าวว่า “อาวุโสทั้งหลายค�าของใครงาม ของพระตถาคต
หรือของเรา”
ก็เรากราบทูลถึงข้อปฏิบัติอย่างอุกฤษฏ์อย่างนี้ว่า
“ข้าพระองค์ขอโอกาสให้ภิกษุทั้งหลายอยู่ป่าเป็นวัตรตลอดชีวิต พึง
เที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตรตลอดชีวิต ทรงผ้าบังสุกุลตลอดชีวิต อยู่โคนไม้เป็น
วัตรตลอดชีวิต ไม่ฉันปลาและเนื้อตลอดชีวิต”
“ผู้ที่ต้องการจะพ้นทุกข์ จงมากับเรา” ว่าแล้วพระเทวทัตก็หลีกไป
ภิกษุบางพวกบวชใหม่อ่อนความรู้ ได้ฟังค�าของพระเทวทัตนั้นแล้ว
คิดว่า พระเทวทัตพูดถูกต้อง เราทั้งหลายจะไปกับพระเทวทัต ไปเป็นพวก
เดียวกันกับพระเทวทัตนั้น
ตามรอยพระศาสดา