Page 201 - ตามรอยพระศาสดา
P. 201

200


          บัณฑิตได้หนึ่งคน บุคคลแสนคนหาคนพูดความจริงได้เพียงหนึ่งคน ส่วน

          คนที่เสียสละได้ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นไม่ทราบว่าจะมีหรือไม่ คือไม่ทราบว่า
          จะหาในบุคคลจ�านวนเท่าไรจึงจะพบได้หนึ่งคน”
                 “ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ข้าวเปลือก ทรัพย์ เงินทอง หรือของที่บุคคล

          หวงแหนอย่างใดอย่างหนึ่ง รวมทั้งทาส กรรมกร คนใช้ และที่อยู่อาศัย
          สิ่งอื่น ๆ ทั้งหมดนี้ บุคคลน�าไปไม่ได้ ต้องทอดทิ้งไว้หมด แต่สิ่งที่บุคคล

          ท�าด้วยกาย วาจา หรือด้วยใจ นั่นแหละที่จะเป็นของเขา เป็นสิ่งที่เขา
          ต้องน�าไปเหมือนเงาตามตัว เพราะฉะนั้น ผู้ฉลาดพึงสั่งสมกัลยาณกรรม
          อันจะน�าติดตัวไปสู่สัมปรายภพได้ บุญย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย

          ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า”
                 “ดูกรภิกษุทั้งหลาย! เมื่อไฟไหม้บ้าน ภาชนะเครื่องใช้อันใดที่

          เจ้าของน�าออกไปได้ของนั้นก็เป็นประโยชน์แก่เจ้าของ ที่น�าออกไม่ได้ก็ถูก
          ไฟไหม้วอดวายอยู่ ณ ที่นั้นเอง ฉันใดคนในโลกนี้ถูกไฟ คือ ความแก่ ความ
          ตายไหม้อยู่ก็ฉันนั้น คนผู้ฉลาดย่อมน�าของออกด้วยการให้ทาน ของที่บุคคล

          ให้แล้ว ชื่อว่าน�าออกดีแล้ว มีความสุขเป็นผล ส่วนของที่ยังไม่ได้ให้หาเป็น
          เช่นนั้นไม่ แต่โจรอาจขโมยเสียบ้าง ไฟอาจจะไหม้เสียบ้าง อีกอย่างหนึ่ง

          เมื่อความตายมาถึงเข้า บุคคลย่อมละทรัพย์สมบัติและแม้สรีระของตน
          ไว้ น�าไปไม่ได้เลย ผู้มีปัญญารู้ความจริงข้อนี้แล้ว พึงบริโภคใช้สอย
          พึงให้เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น เมื่อได้ให้บริโภคตามสมควรแล้ว เป็นผู้ไม่ถูก

          ติเตียน ย่อมเข้าสู่ฐานะอันประเสริฐ”
                 “ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ความตระหนี่ลาภเป็นความโง่เขลา เหมือน

          ชาวนาที่ตระหนี่ไม่ยอมหว่านพันธุ์ข้าวลงในนา เขาเก็บพันธุ์ข้าวเปลือก
          ไว้จนเน่าและเสีย ไม่สามารถจะปลูกได้อีก ข้าวเปลือกที่หว่านลงแล้วหนึ่ง
          เมล็ด ย่อมให้ผลหนึ่งรวงฉันใด ทานที่บุคคลท�าแล้วก็ฉันนั้น ย่อมมีผลมาก




                                  ตามรอยพระศาสดา
   196   197   198   199   200   201   202   203   204   205   206