Page 199 - ตามรอยพระศาสดา
P. 199

198


          กามตัณหา อย่างหนึ่ง ดิ้นรนอยากเป็นนั่นเป็นนี่ เรียกภวตัณหา อย่าง

          หนึ่ง ดิ้นรนอยากผลักสิ่งที่มีอยู่แล้ว เป็นแล้ว เรียก วิภวตัณหา อย่างหนึ่ง
          นี่แล คือสาเหตุแห่งความทุกข์ขั้นมูลฐาน ภิกษุทั้งหลาย! การสลัดทิ้งโดย
          ไม่เหลือซึ่งตัณหาประเภทต่าง ๆ ดับตัณหา คลายตัณหาโดยสิ้นเชิง นั่นแล

          เราเรียกว่านิโรธ คือความดับทุกข์ได้”
                 “ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ปัญหาที่เผชิญอยู่เบื้องหน้าของทุก ๆ คน

          คือปัญหาเรื่องทุกข์และความดับทุกข์ มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายถูกความ
          ทุกข์เสียบทั้งทางกายและทางใจ อุปมาเหมือนผู้ถูกยิงด้วยลูกศรซึ่งอาบ
          ด้วยยาพิษ แล้วญาติมิตรเห็นเข้าเกิดความกรุณา จึงพยายาม ช่วยถอน

          ลูกศรนั้น แต่บุรุษผู้โง่เขลาบอกว่าต้องไปสืบให้ได้เสียก่อนว่า ใครเป็นคน
          ยิง และยิงมาจากทิศไหน ลูกศรท�าด้วยอะไร แล้วจึงจะค่อยมาถอนลูกศร

          ออก ภิกษุทั้งหลาย! บุรุษนั้นจะต้องตายเสียก่อนเป็นแน่แท้ ความจริง
          เมื่อถูกยิงแล้ว หน้าที่ของเขาก็คือ ควรพยายามถอนลูกศรออกเสียทันที
          ช�าระแผลให้สะอาด แล้วใส่ยาและรักษาแผลให้หายสนิท หรืออีกอุปมา

          หนึ่งเหมือนบุคคลที่ไฟไหม้อยู่บนศีรษะ ควรรีบดับเสียโดยพลัน ไม่ควร
          เที่ยววิ่งหาคนผู้เอาไฟมาเผาศีรษะตน ทั้ง ๆ ที่ไฟลุกไหม้อยู่”

                 “ดูกรภิกษุทั้งหลาย! สังสารวัฏนี้เต็มไปด้วยเพลิงทุกข์นานา
          ประการ โหมให้ร้อนอยู่โดยทั่ว สัตว์ทั้งหลายยังวิ่งอยู่ในกองทุกข์แห่ง
          สังสารวัฏ ใครเล่าจะเป็นผู้ดับ ถ้าทุกคนไม่ช่วยกันดับทุกข์แห่งตน อุปมา

          เหมือนบุรุษสตรีผู้รวมกันอยู่ในบริเวณกว้างแห่งหนึ่ง และต่างคนต่างถือ
          ดุ้นไฟใหญ่อันไฟลุกโพลงอยู่ทั่วแล้ว ต่างคนต่างก็วิ่งวนกันอยู่ในบริเวณนั้น

          และร้องกันว่า ร้อน ร้อน ภิกษุทั้งหลาย! ครานั้นมีบุรุษผู้หนึ่งเป็นผู้ฉลาด
          ร้องบอกให้ทุก ๆ คนทิ้งดุ้นไฟในมือของตนเสีย ผู้ที่ยอมเชื่อทิ้งดุ้นไฟก็ได้
          ประสบความเย็น ส่วนผู้ไม่เชื่อก็ยังคงวิ่งถือดุ้นไฟพร้อมด้วยร้องตะโกนว่า




                                  ตามรอยพระศาสดา
   194   195   196   197   198   199   200   201   202   203   204