Page 55 - คมองานบรหาร_Neat
P. 55

51

                         1.2 การจัดรูปแบบออกตรวจ

                                ในการก าหนดแผนให้สายตรวจออกตรวจตราป้องกันเหตุนั้น อาจก าหนดรูปแบบในการ
                  ออกตรวจได้หลายแบบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ก าลังพล เครื่องอุปกรณ์ ยานพาหนะ และสถานภาพ

                  อาชญากรรม รูปแบบดังกล่าวได้แก่

                                1.2.1 การตรวจประจ าเขต คือ การจัดสายตรวจ ตรวจตรารับผิดชอบประจ าในเขตตรวจใด

                  เขตตรวจหนึ่งตลอดเวลาการปฏิบัติหน้าที่ การตรวจแบบนี้ สายตรวจสามารถตรวจตราได้อย่างทั่วถึง

                  เพราะประจ าอยู่ในเขตตรวจเป็นเวลานาน และสามารถสร้างความคุ้นเคยกับประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

                  แต่อย่างไรก็ตามการตรวจประจ าเขตอาจมีข้อเสีย กล่าวคือ ท าให้สายตรวจเกิดความเบื่อหน่าย เพราะต้อง

                  ตรวจตราในเขตแคบ ๆ อย่างจ ากัดตลอดเวลา นอกจากนี้หากมีเหตุร้ายในเขตตรวจอื่น ซึ่งสายตรวจต้องไปรวม
                  ก าลังช่วยเหลือ ขาดความรู้ ความช านาญพื้นที่ในเขตตรวจนั้นซึ่งไม่เคยตรวจตรา ย่อมท าให้การเดินทางไปยังที่เกิด

                  เหตุล่าช้า และขีดความสามารถการปฏิบัติการในบริเวณที่เกิดเหตุไม่เพียงพอ และประการสุดท้ายได้แก่ การที่

                  สายตรวจประจ าเขตมีความคุ้นเคยกับประชาชนอย่างแน่นแฟ้น อาจท าให้การออกตรวจลาดตระเวนมีน้อย

                  เนื่องจากอาจใช้เวลาส่วนใหญ่พูดคุยสังสรรค์กับประชาชนและการปราบปรามอาจได้ผลน้อยอันเนื่องมาจาก

                  ความเกรงใจกันและกันก็ได้
                                แต่อย่างไรก็ตามการตรวจประจ าเขตจะท าให้งานต ารวจชุมชนสัมพันธ์ได้ผลดี ข้อขัดข้องต่าง ๆ

                  เป็นสิ่งที่ต้องใช้มาตรการอื่นในการควบคุมเข้ามาแก้ไข

                                1.2.2 การตรวจหมุนเขต คือการตรวจที่ตรงกันข้ามกับการตรวจประจ าเขต กล่าวคือเป็นการจัด

                  สายตรวจให้ตรวจตรารับผิดชอบอยู่ในเขตตรวจในตรวจหนึ่งในช่วงเวลาจ ากัด เช่น 1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง เป็นต้น

                  แล้วให้หมุนเวียนไปตรวจเขตใกล้เคียง โดยมีสายตรวจอื่นเข้าไปตรวจแทนที่หมุนเวียนกันไปจนเสร็จสิ้น

                  การปฏิบัติหน้าที่ ยกตัวอย่างเช่น สถานีมีสายตรวจ 4 คัน มีเขตตรวจ 4 เขต ในช่วง 2 ชั่วโมงแรก สายตรวจคัน
                  ที่ 1 ตรวจประจ าเขตตรวจที่ 1, สายตรวจคันที่ 2 ประจ าเขตตรวจที่ 2, สายตรวจคันที่ 3 ประจ าเขตตรวจที่ 3,

                  สายตรวจคันที่ 4 ประจ าเขตตรวจที่ 4, 2 ชั่วโมงต่อมา สายตรวจคันที่ 1 จะหมุนไปตรวจเขตตรวจที่ 4,

                  สายตรวจคันที่ 2 จะหมุนไปตรวจเขตตรวจที่ 1, สายตรวจคันที่ 3 จะหมุนไปตรวจเขตตรวจที่ 2, และสายตรวจ

                  คันที่ 4 จะหมุนไปตรวจเขตตรวจที่ 3 หมุนเวียนกันไปเช่นนี้

                                ผลดีของการใช้รูปแบบนี้ ท าให้สายตรวจทุกคันมีความรู้ความช านาญในพื้นที่ทั่วถึง

                  และครอบคลุม มีขีดความสามารถในการปฏิบัติงานได้ทุกเขตตรวจ ไม่เกิดความจ าเจ เบื่อหน่าย เนื่องจาก
                  ได้มีการเปลี่ยนหมุนเวียนไปในพื้นที่ต่าง ๆ ตลอดเวลา ประการส าคัญคือ สามารถควบคุมตรวจสอบได้ง่ายกว่า

                  แบบที่ 1 โดยเฉพาะการตรวจสอบการลงเวลาบันทึกลงในจุดตรวจ เพราะว่าสายตรวจจ าเป็นต้องลงชื่อ เวลาตาม

                  จุดตรวจได้ในเวลาจ ากัด เมื่อหมุนไปอยู่เขตอื่นก็ไม่มีเวลากลับมาลงเวลาตรวจ (ในกรณีไม่ได้ตรวจตามแผน)

                  รายละเอียดให้ดูในเรื่องการควบคุมสายตรวจข้อจ ากัดก็ได้แก่ การที่ต้องตรวจตราไปทุกเขต อาจท าให้ความ
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60