Page 111 - e-book Health Knowledge Articles
P. 111

ถุงยางอนามัย.......ความปลอดภัยที่วัยรุ่นเลือกได้


                      ปัจจุบันความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องเพศศึกษาในสังคมไทยยังไม่เป็นที่แพร่หลาย อีกทั้ง
               หญิงชายจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ยังไม่ค่อยใส่ใจในสุขภาพอนามัยของตนเองเท่าที่ควร

               สิ่งเหล่านี้ทำให้ปัญหาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมยังคงมีอยู่ในสังคมไทย ถุงยางอนามัย
               ถือเป็นอุปกรณ์แห่งความสำเร็จในการป้องกันเอดส์ในประเทศไทย ซึ่งอัตราการใช้ถุงยางอนามัย
               ในหญิงบริการทางเพศในปี 2532-2544 สูงมากเกือบ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ทำให้โรคติดต่อทาง
               เพศสัมพันธ์ลดลงร้อยละ 90 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน ซึ่งต่างประเทศให้การยอมรับประเทศไทยใน

               เรื่องนี้มาก เพราะช่วยวัยรุ่นไม่ให้ติดเชื้อเอดส์ได้เป็นจำนวนมาก และถ้าไม่มีการใช้ถุงยางอนามัย
               ปัจจุบันอาจมีผู้ติดเชื้อเอดส์กว่า 10 ล้านคน นอกจากนี้มีหลักฐานชัดเจนว่า ถุงยางอนามัยยังมี
               บทบาทสำคัญในการแก้ป้องกันปัญหาท้องไม่พร้อมด้วย
                      ปัจจุบันแนวโน้มของผู้ติดโรคทางเพศสัมพันธ์ในประเทศไทยลดลง เพราะมีการใช้ถุงยาง

               อนามัยมากขึ้น   แต่ต้องยอมรับว่าระยะหลังการรณรงค์ป้องกันเริ่มชะลอตัวไม่มากเหมือนแต่
               ก่อน ทำให้บางโรคที่เคยควบคุมได้เหมือนจะย้อนมากลับอีกครั้ง เช่น กามโรคที่ตรวจพบในกลุ่ม
               แรงงานต่างด้าวมากขึ้น ขณะที่โรคเอดส์พบว่า กลุ่มเสี่ยงที่เป็นสถานบริการอาบอบนวด

               โดยเฉพาะหญิงบริการและผู้ใช้บริการ ต่างให้ความสำคัญกับถุงยางอนามัยมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์
               ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์จากกลุ่มนี้ลดลงอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามกลุ่มที่น่าเป็นห่วงกลับ
               กลายเป็นกลุ่มชายรักชาย และกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมจับคู่กันเอง โดยมีข้อมูลว่าทั้งสองกลุ่มนี้กว่า 50
               เปอร์เซ็นต์ไม่นิยมใช้ถุงยางอนามัย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์และการท้องไม่พร้อมเพิ่ม
               สูงขึ้น   ซึ่งสาเหตุการไม่ใช้ถุงยางอนามัย น่าจะมาจากการไม่เห็นความสำคัญ หรือคิดว่าคู่นอน

               ของตัวเองสะอาด หรืออาจมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับการป้องกัน เช่น การซื้อยาคุมกำเนิดมากิน
               เอง การใช้วิธีหลั่งข้างนอก หรือใช้วิธีการนับวันของการมีประจำเดือน ซึ่งวิธีเหล่านี้ไม่ปลอดภัย
               และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย

                      วัยรุ่นสมัยนี้มีเพศสัมพันธ์กันเร็วขึ้น โดยเฉพาะเด็กนักเรียนระหว่าง ม.2-ม.5 ซึ่งพบว่ามี
               กว่า 2 แสนกว่ารายที่ท้องไม่พร้อมและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นเราจะต้องสอนให้เขารู้จัก
               ต่อรอง หรือรู้จักปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ เช่น อ้างว่ามีประจำเดือน หรือพ่อแม่สั่งห้ามไว้ เป็นต้น
               ซึ่งถ้าผู้หญิงยิ่งปฏิเสธเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีคุณค่ามากขึ้นในสายตาของผู้ชาย นอกจากนี้จะต้อง

               หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ลับตาผู้คนแบบสองต่อสอง เพราะจากสถิติพบว่ากว่า 50 เปอร์เซ็นต์
               เด็กวัยรุ่นมักจะแอบไปมีเพศสัมพันธ์กันที่บ้าน


                                                                                           105
   106   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116