Page 57 - e-book Health Knowledge Articles
P. 57
แอลกอฮอล์ในการแพ็ค ใช้น้ำยาแอลกอฮอล์ 70% พ่นฆ่าเชื้อทุกด้าน ทุกซอก และ
ด้านหลังของร่างผู้เสียชีวิตเพื่อให้สะอาดที่สุด และใช้สำลีชุบน้ำยาแอลกอฮอล์อุดตาม
อวัยวะทวารต่างๆ ด้วย
3. บรรจุร่างในถุงซิปหนา 3 ชั้น ร่างผู้เสียชีวิตจะถูกบรรจุในถุงซิปที่มีความหนาจำนวน
3 ชั้น โดยถุงแต่ละชั้นก็ต้องมีการฉีดน้ำยาแอลกอฮอล์ 70% พ่นฆ่าเชื้อด้วยเช่นกัน
4. บรรจุร่างใส่ถุงแต่ละชั้นต้องปลอดเชื้อ ระหว่างการรูดซิปชั้นที่ 1 เจ้าหน้าที่จะต้อง
สเปรย์แอลกอฮอล์พ่นฆ่าเชื้อที่ถุงซิป จากนั้นผู้บรรจุศพต้องออกจากห้อง ถอดชุด
ป้องกัน ถอดถุงมือออกไปทำความสะอาดร่างกาย แล้วกลับมาบรรจุร่างใส่ถุงซิปชั้นที่
2 และทำซ้ำแบบเดียวกันในการบรรจุร่างใส่ถุงซิปชั้นที่ 3 เพื่อให้มั่นใจว่าถุงซิปชั้นที่
2 และ 3 ไม่มีโอกาสที่จะมีเชื้อโรคเลย
5. นำร่างไปแช่แข็ง การจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรค "โควิด-19" ทุกราย โรงพยาบาล
ทุกแห่งในไทยจะทำเป็นมาตรฐานเดียวกันคือ นอกจากการนำร่างผู้เสียชีวิตบรรจุลง
ในถุงซิป 2-3 ชั้นแล้ว ศพผู้ป่วยดังกล่าวจะไม่ได้ถูกฉีดน้ำยา แต่จะถูกนำไปแช่แข็งที่
อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียสแทน
6. ไม่อนุญาตให้อาบน้ำศพ ทีมแพทย์มีคำแนะนำสำหรับญาติให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
คือ ไม่อนุญาตให้ญาติการอาบน้ำ และไม่อนุญาตให้ญาติสัมผัสจับต้องศพหรือใช้มือ
เปล่าเปิดถุงซิปออกเอง
7. การเผาศพมีความร้อนสูง เชื้อโรคตายหมด ศพผู้ติดเชื้อนั้น หลังจากเสียชีวิตแล้ว
ระยะเวลายิ่งนานไปเชื้อโรคก็ยิ่งลดน้อยลง เพราะธรรมชาติของเชื้อโรคที่อยู่ในเซลล์
ต่างๆ ของร่างกาย เมื่อร่างกายนั้นๆ เสียชีวิตลง เซลล์และเนื้อเยื่อก็หยุดทำงาน ทำ
ให้เชื้อโรคอยู่ไม่ได้ ก็ต้องตายตามไปเช่นกัน อีกทั้งโดยปกติการเผาศพจะใช้ ความ
ร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส ทำให้เนื้อเยื้อ ผิวหนัง และกระดูกของ
ร่างมอดไหม้ ดังนั้นเชื้อโรคจะตายหมดแน่นอน
อย่าตื่นตระหนก ศพผู้ป่วยโควิด-19 ไม่มีอันตรายอย่างที่คิด กรมการแพทย์ กระทรวง
สาธารณสุขยืนยันเชื้อไวรัสได้ตายไปพร้อมกับผู้เสียชีวิตแล้ว วิธีการและขั้นตอนบรรจุศพโดยทีม
แพทย์ก็มีความรัดกุมอย่างมาก สำหรับคนที่ไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพควรระมัดระวัง อย่า
ไปอยู่ในจุดที่คนแออัดเบียดเสียด และนั่งให้มีระยะห่างจากกันมากกว่า 1 เมตร
แหล่งที่มา : สถาบันบำราศนราดูร, สถาบันพยาธิวิทยา กรมการแพทย์
51