Page 165 - 25620605121318noศธ 021028614file02_2
P. 165

5. หากจ านวนผู้เรียนมีน้อย สามารถลดจ านวนรอบของการเล่นแลกน้ าลงได้ เพื่อไม่ให้น้ าเปลี่ยนสี
                  ทั้งหมด

                         6. อาจมีการล้อเลียนระหว่างท ากิจกรรมและพาดพิงไปถึงพฤติกรรมส่วนตัว จะท าให้ผู้ถูกล้อเลียน
                  เลี่ยงการแสดงความคิดเห็นหรือซักถาม ผู้จัดการเรียนรู้ควรก าหนดกติกาก่อนด าเนินกิจกรรม
                         7. หากจ านวนผู้เรียนเป็นเลขคู่ ให้ขออาสาสมัครเป็นเลขคู่ หากจ านวนผู้เรียนเป็นเลขคี่ ก็ให้ขอ
                  อาสาสมัครเป็นเลขคี่ (อาสาสมัครอย่างน้อย 6 คน ต่อจ านวนผู้เรียน 30 คน)


                           หมายเหตุ :

                             กิจกรรมแลกน้ าควรด าเนินการก่อนกิจกรรมประเมินความเสี่ยง (QQR)



                  ข้อสรุปส าคัญจากการจัดกิจกรรม
                         1.  โอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยกับผู้ติดเชื้อ
                  ซึ่งดูไม่ออกจากรูปลักษณ์ภายนอก และปัจจุบันมีการคาดประมาณการว่า ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี
                  ในประเทศไทยมีประมาณ 600,000 คน และประมาณครึ่งหนึ่งยังไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ

                         2.  แม้จะรู้ว่าเอชไอวีติดต่ออย่างไร และรู้ว่าถุงยางอนามัยป้องกันได้ แต่หลายคนประเมิน
                  ความเสี่ยงของตนเองและคู่ที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยพลาด เพราะ
                             คิดว่าคู่ปลอดภัย โดยดูจากคุณสมบัติภายนอก เช่น อายุน้อย หน้าตา นิสัยใจคอ การศึกษา

                  ฯลฯ แต่ละเลยประวัติการมีเพศสัมพันธ์
                             เลือกใช้ถุงยางอนามัยในบางคนและบางสถานการณ์เท่านั้น ที่คิดว่าอาจจะไม่ปลอดภัย
                  ตามความเชื่อของตนเอง
                             ไม่กล้าพูดคุยเรื่องถุงยางอนามัยเพื่อการป้องกัน เพราะกลัวว่าถุงยางจะเป็นสัญลักษณ์ของ

                  ความไม่ไว้วางใจ หรือไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน
                              อาย ไม่กล้าพูดเรื่องถุงยางอนามัยกับแฟนก่อน
                             มั่นใจตนเองว่าเป็นคนรักเดียวใจเดียว และเชื่อว่าคู่ตัวเองก็มีพฤติกรรมรักเดียวใจเดียว

                  เหมือนกัน
                             เชื่อมั่นในผลเลือดของตนเองหรือคู่นอนว่า เคยตรวจเลือดมาแล้วและผลเลือดเป็นลบ และ
                  ก็คิดว่าน่าจะเป็นลบตลอดไป ทั้ง ๆ ที่การตรวจเลือดคือการตรวจดูว่ามีเชื้อเอชไอวีหรือไม่ในระยะเวลาหนึ่ง
                  เท่านั้น ไม่ใช่ตลอดไป ขึ้นกับพฤติกรรมว่า จะมีโอกาสไปมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางมาอีกหรือไม่

                  ในขณะเดียวกัน ก็มีระยะเลือดแฝง (Window period) คือ 1 เดือนแรกหลังจากมีโอกาสรับเชื้อยังตรวจ
                  ไม่พบเชื้อ ซึ่งยังเป็นช่วงที่ตรวจผลเลือดเป็นลบ แต่มีเชื้อเอชไอวีและส่งต่อเชื้อได้แล้ว ดังนั้นการตรวจเลือด
                  จึงไม่ใช่วิธีการป้องกัน ซึ่งเราสามารถป้องกันตนเองได้ โดยไม่จ าเป็นต้องไปรู้ผลเลือดของคู่
                         3. วิธีเดียวที่จะรู้ว่ามีเชื้อหรือไม่ คือการตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีโดยตรงหลังจากมีพฤติกรรมเสี่ยง

                  ไปแล้ว 1 เดือน และคนไทยมีสิทธิที่จะตรวจเลือดเอชไอวีฟรี ปีละ 2 ครั้ง จากโรงพยาบาลของรัฐบาล
                  ทั่วประเทศ
                         4. ถ้ามีเพศสัมพันธ์ ถุงยางอนามัยเป็นวิธีการป้องกันการติดเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูง จึงควรใช้
                  ถุงยางอนามัยกับทุกครั้งและทุกคนในการมีเพศสัมพันธ์






                                                                                                                161
   160   161   162   163   164   165   166   167   168   169   170