Page 242 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 242
ยังไง สุนัขมันก็เห่าน่ะสิ ก็บ่น ๆ สารพัด ทำไมลูกไม่มา อุตส่าห์เลี้ยงมันซะดิบดีแล้วมันไปไหน
อยากจะออกไปก็ออกไปไม่ได้ ๘๐ ปี เราก็เลยเฝ้าบ้าน
ที่นี้หลวงพ่อก็สรุปว่า คนเราไม่อยากจะขี้บ่นไม่อยากจะเหงา ก็ต้องสวดมนต์ คนเรามีดี ๒
อย่าง หลวงพ่อว่า ๑) ความเป็นเลิศ ๒) ความสามารถ ความเป็นเลิศที่มันหายไปก็เพราะว่าเราไม่
สวดมนต์ เพราะว่าสวดมนต์มันทำให้สมองปัญญาดี นอนหลับก็สบายด้วย เวลาเราสวดมนต์นี่
สวดอิติปิโสภะคะวาอย่างพระอาจารย์พาสวดนี่ มันจะทำให้จิตเราผ่องใสจิ ตของเราเบิกบาน ไม่
ี
หงุดหงิด ไม่เบื่อ ไม่เซ็งนี่ คืออารมณ์ดี เพราะฉะนั้น การสวดมนต์นี่มันเป็นการเคลยอารมณ์จาก
์
อารมณ์บูด อารมณ์เน่า อารมณ์เซ็ง ให้มันหายไป มันทำให้อารมณ์ดี อารมณผ่องใสและจิตใสมัน
เป็นบุญ จิตขุ่นมันเป็นบาป เพราะฉะนั้น อยากจะสวดมนต์บ่อย ๆ จะจัดให้เวลาสวดมนต์นี่ต้อง
ตั้งใจสวด เพราะฉะนั้น ความดี ๒ อย่างที่หลวงพ่อบอกว่าจะคืนมา หลวงพ่อ ๙๐ ปีแล้ว ยังคงสวด
ุ
ิ
มนต์ นั่งสมาธิ และสมาธิต้องสอนอีก ๙๖ ปีก็ยังต้องสอนคุรุสาสมาธ ๙๗ ถึง ๙๘ หลวงพ่อจึงหยด
แต่ก็สอนทุกวันจนถึงอายุ ๑๐๐ ปี หลวงพ่อจึงหยุด เห็นไหมนี่คือสมองปัญญาดี
ดูหลวงพ่อเป็นตัวอย่าง ท่านสวดมนต์ไม่หยุดเลย นั่งสมาธิก็ไม่หยุด ท่านทั้งหลายเป็นลูกศิษย์
หลวงพ่อแล้วต้องเอาแบบอย่างหลวงพ่อ นี่คืออริยทรัพย์ที่จะติดตัวเราไปข้ามภพข้ามชาติ อย่างอื่น
เอาไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลาย การได้สวดมนต์ การได้นั่งสมาธิ การได้ทำความดีนี่แหละคือ
บุญของเรา นิทานเรื่องนี้สอนให้คนรู้ว่า คนเราเกิดมานี่เราต้องรู้จักสวดมนต์ เพราะว่าถ้าหากเรา
็
ปล่อยชีวิตล่วงเลยไปไปเปนอายุของควายนี่ต้องทำงานหนัก แต่ก็ดีได้สัมมาอาชีพเลี้ยงลูก เลี้ยงสามี
ี้
เลยงภรรยา ถึงหนักเราก็ยอม แต่เมื่อ ๗๐ ปี ขึ้นไป เราต้องเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน แบ่งภาระให้ลูกให้
หลานไปทำงาน ให้ลูกไปทำงาน หลานเอาไว้อยู่ที่เรา เราก็ไม่เหงา เมื่ออายุ ๘๐ ปี อันนี้ก็เฝ้าบาน
้
เถอะ ให้ลูกให้หลานไปทำงาน เราก็เฝ้าบ้าน เรามีหน้าที่อะไรรู้ไหม สวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธ ิ
อันนี้ต้นคดปลายตรง นี่ต้นคดปลายตรง ตรงไปสวรรค์ ตรงไปนิพพาน เราต้องทำอย่างนี้ นี่คือทางที่
จะทำให้เกิดบุญเกิดกุศล เพราะฉะนั้น โอกาสต่อแต่นี้ไปจะพาท่านนั่งสมาธิซัก ๑๐ นาที สวดมนต์
แล้วฟังธรรมะบรรยายแล้ว เหลือนั่งสมาธินั่ง ๑๐ นาทีก็พอแล้ว
๒๔๒