Page 244 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 244
การได้มาสวดมนต์ก็ถือว่าเจริญรอยตามเจ้าประคุณ สมเด็จพระญาณวชิโรดม ท่านทั้งหลาย
พร้อมหรือยัง ถ้าพร้อมแล้วก็จะพาสวดมนต์แล้ว ผ่านมา ๕ นาที ถ้าอย่างนั้นจะพาสวดลักขีสัก ๓๐
นาที แต่ผ่านมาแล้ว ๕ นาทีก็ลดลงเหลือ ๒๕ นาที หวังว่าท่านทั้งหลายคงจะพร้อม ต่อแต่นี้ไปก็จะ
พากราบพระรัตนตรัย ท่านทั้งหลายพร้อมกันว่าตาม
๐๙๘ ธรรมะบรรยาย
ท่านเจ้าคุณ พระราชปัญญาวชิโรดม
๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๔
๐๙๗
ก็เป็นอันว่าการสวดลักขีจบ อยากจะให้มันได้ ๓๐ นาที คงจะได้ ๓๐ นาทีพอดี รวมทั้งหมด
๒๑ รอบ ก็ถือว่าพวกเราได้สวดลักขีครั้งนี้มากกว่าเมื่อวาน ๒ เท่า เมื่อวาน ๑๒ รอบ วันนี้ได้ ๒๑
รอบ ก็นับว่าเราได้สวดลักขีอย่างมีประสิทธิภาพ คนเราถ้าหากว่าเราไม่ควบคุมอารมณ์ของเรา มัน
ก็จะคิดเรื่อยเปื่อยไป การคิดเรื่อยเปื่อยนั้น ถ้ามันดีก็ดี แต่ถ้าไม่ดีมันจะเอาขยะเข้าสู่จิตของเรา
ิ
เพราะฉะนั้น การสวดลักขีคือการทำสมาธิภาวนาจต มันก็เลยจดจ่ออยู่ที่บทสวด สวดแล้วสวดอีก
สวดแล้วสวดอีก แทนที่จะวอกแวก พระอาจารย์ก็มีวอกแวกบ้าง ก็ดูนาฬิกาบ้าง ก็ดูเพื่อนร่วมงาน
ที่จัดฉากบ้าง มันก็เลยวอกแวกหน่อยอยู่หน่อยหนึ่ง แต่ในขณะเดียวจิตมันก็ตั้งมั่นว่ากำลังสวดลักขี
เพราะฉะนั้น การสวดลักขีมันจะเป็นการทำสมาธิได้ดี เมื่อสมาธิได้ดี มันก็เกิดการผิดพลังจิต เมื่อ
ผลิตพลังจิต ก็เกิดกระแสจิต เมื่อเกิดกระแสจิต มันก็จะเกิดปัญญา พอเกิดปัญญาแล้วก็จะรู้จักว่า
ี
จะเอาอารมณ์อะไรเข้าสู่จิตของเรา เพราะจิตของเรานี้ต้องการอารมณ์ที่ดี เรยกว่า “อิฏฐารมณ์”
คืออารมณ์ที่ดี “อนิฏฐารมณ์” คืออารมณ์ไม่ดี พระพุทธเจ้าตรัสว่าอารมณ์ ๒ อย่างนี้ คนเรามันจะ
แยกแยะไม่ได้ เมื่อแยกแยะไม่ได้ มันก็จะเอานิฏฐารมณ์บ้าง อนิฏฐารมณ์บ้าง อารมณ์ดีบ้าง อารมณ์
เสียบ้าง ในที่สุดก็เป็นสาเหตุให้เราเก็บเยอะแยะในจิตของเรา อารมณ์บูดก็มี อารมณ์เน่าก็มี
์
์
อารมณเซ็งก็มี อารมณเบอก็มี อารมณ์เครียดก็มี อารมณ์โมโหก็มีหรือว่ามันมีสารพัดอารมณ์ มันก็
ื่
เลยทำให้จิตของเรามันอ่อนแออ่อน เมื่อมันอ่อนแออ่อน คุณภาพเหมือนวัตถุสิ่งของที่มันไร้คุณภาพ
มันก็ไม่สมารถที่จะทนทานกับแดดกับฝนกับดินฟ้าอากาศได้ มันจึงอ่อนแออ่อนไหว แต่ถ้าหากว่า
วัตถุสิ่งของใดที่มีคุณภาพ มันก็คงทนถาวร ยืนหยัดต่อสภาพสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้น ใจคนเราก็
๒๔๔