Page 41 - สรุปติว
P. 41
41
(2) ในกรณีแต่งเครื่องแบบ ให้พาไปด้วยความเหมาะสมเรียบร้อยและปลอดภัยใส่อุปกรณ์จัดเก็บที่เหมาะสม ในกรณีไม่ได้แต่ง
เครื่องแบบ ให้พาไปโดยมิดชิดจนไม่อาจสังเกตเห็นได้โดยง่าย
(3) ไม่พาอาวุธปืนและยุทธภัณฑ์ในลักษณะที่ก่อให้เกิดความหวาดเสียว หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น
(4) ห้ามดื่มสุราหรือของมึนเมาโดยเด็ดขาด
(5) ห้ามพาอาวุธปืนและยุทธภัณฑ์อันมีลักษณะเป็นการข่มขู่บุคคลอื่น
(6) ต้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์ของศาลยุติธรรม
22. ความในข้อ 8 ข้อ 18 และข้อ 19 (2) (3) และ (5) มิให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ตามสภาพและขนาดของอาวุธปืนและยุทธภัณฑ์ หรือตาม
พฤติการณ์ไม่สามารถปฏิบัติได้หรือหากปฏิบัติอาจเป็นอันตรายต่อเจ้าพนักงานตํารวจศาลผู้นั้น หรือเป็นกรณีจําเป็นเพื่อประโยชน์ในการ
ปฏิบัติราชการ
23. ห้ามเจ้าพนักงานตํารวจศาลพาอาวุธปืนและยุทธภัณฑ์ เข้าไปในเขตพระราชฐาน หรือสถานที่อื่นใดตามที่กฎหมายห้าม เว้นแต่ได้รับ
อนุญาตจากผู้มีอํานาจในสถานที่นั้นอนุญาต
การเก็บและการบํารุงรักษา
24. ให้สํานักงานศาลยุติธรรมและหน่วยงานในสังกัดสํานักงานศาลยุติธรรมที่ได้รับการจัดสรรอาวุธปืนและยุทธภัณฑ์จัดให้มีสถานที่เก็บ
รักษาอาวุธปืนและยุทธภัณฑ์ที่มั่นคงแข็งแรงและปลอดภัย รวมทั้งจัดให้มีระบบการรักษาความปลอดภัยด้วย
25. ให้นายทะเบียนเก็บรักษาอาวุธปืนโดยแยกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนออกจากจากกันในลักษณะที่ไม่สามารถใช้ได้ในทันที
26.ให้นายทะเบียนบํารุงรักษาอาวุธปืนและยุทธภัณฑ์ที่อยู่ในความดูแลให้พร้อมใช้งานได้ดีอยู่เสมอ โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่สํานักงาน
ศาลยุติธรรมกําหนด
27. ให้นายทะเบียนจัดทําบัญชีประจําการอาวุธปืน บัญชีประจําการ เครื่องกระสุนปืน และบัญชีประจําการยุทธภัณฑ์ตามแบบท้ายระเบียบนี้
รายงานสํานักงานศาลยุติธรรม เพื่อตรวจสอบเป็นปัจจุบันทุกเดือน
28. ให้นายทะเบียนตรวจสอบสภาพ ตรวจนับจํานวน และรายงานการใช้เสนอต่อเลขาธิการภายในเดือนตุลาคมของทุกปี หรือตามที่
เลขาธิการเห็นสมควร
29. หากพบว่าอาวุธปืนและยุทธภัณฑ์ที่อยู่ในความควบคุมรับผิดชอบชํารุดเสื่อมสภาพเนื่องจากมีอายุการใช้งานมานานหรือด้วยสาเหตุ
อื่น ให้นายทะเบียนจัดทําบัญชีแสดงชนิดและจํานวนเสนอต่อเลขาธิการ และให้เลขาธิการสั่งให้ดําเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการจดซื้อ
จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
การควบคุมและกํากับดูแล
30. เจ้าพนักงานตํารวจศาลจะต้องปฏิบัติตามระเบียบนี้โดยเคร่งครัด หากกระทําการฝื่นหรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบนี้ ต้องรับผิดในความ
เสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด และอาจถูกดําเนินคดีอาญาและอาจมีความผิดทางวินัย อีกส่วนหนึ่งด้วย
***********************************************
คําสั่งสํานักงานศาลยุติธรรม ที่ 438/2561
เรื่อง มอบอํานาจในการอนุญาตให้ข้าราชการศาลยุติธรรม ลูกจ้างประจํา พนักงานราชการศาลยุติธรรมและลูกจ้างชั่วคราว
เดินทางไปต่างประเทศในระหว่างการลาตามระเบียบ ก.บ.ศ. หรือในระหว่างวันหยุดราชการ
อาศัยอํานาจตามความในระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ว่าด้วยการมอบอํานาจของเลขาธิการสํานักงานศาล
ยุติธรรม พ.ศ. 2545 ข้อ 4 และระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมว่าด้วยการลาหยุดราชการของข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม
และลูกจ้างของสํานักงานศาลยุติธรรม พ.ศ. 2556 ข้อ 8 และข้อ 13 จึงมอบอํานาจให้ประธานศาลอุทธรณ์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค อธิบดี
ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น อธิบดีผู้พิพากษาภาค เป็นผู้พิจารณาอนุญาตการขอเดินทางไปต่างประเทศในระหว่างการลาหรือในระหว่าง
วันหยุดราชการของข้าราชการศาลยุติธรรม ลูกจ้างประจํา พนักงานราชการศาลยุติธรรม และลูกจ้างชั่วคราวในสังกัด
นนทวิกา วงษ์สกุล