Page 49 - สรุปติว
P. 49
49
26. คําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลชํานัญพิเศษกฎหมายกําหนดให้อุทธรณ์ได้ที่ ศาลอุทธรณ์ชํานัญพิเศษ
27. ศาลชั้นอุทธรณ์ คือ เป็นศาลที่มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีที่อุทธรณ์คําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลชั้นต้นตามบทบัญญัติแห่ง
กฎหมายว่าด้วยการอุทธรณ์ รวมทั้งมีอํานาจพิจารณาคําสั่งอื่นๆ เช่นมีคําสั่งเกี่ยวกับการขอประกันตัวในคดีอาญาและการขอทุเลาการ
บังคับในคดีแพ่ง เป็นต้น
28. การพิจารณาของศาลชั้นอุทธรณ์มีลักษณะเป็นการตรวจสอบหรือทบทวนคําพิพากษาของศาลชั้นต้น มิใช่เป็นการพิจารณาคดีใหม่
29. ศาลชั้นอุทธรณ์มีองค์คณะประกอบด้วยผู้พิพากษากี่ อย่างน้อย 3 คน
30. ศาลชั้นอุทธรณ์มีทั้งหมด 11 ศาล ประกอบด้วย
- ศาลอุทธรณ์ จํานวน 1 ศาล มีอํานาจพิจารณาคดีที่อุทธรณ์คาพิพากษาหรือคําสั่งคดีแพ่ง คดี ผู้บริโภค คดีสิ่งแวดล้อม
คดีอาญา คดีเลือกตั้ง คดียาเสพติด คดีอาญาทุจริต และคดีค้ามนุษย์
- ศาลอุทธรณ์ภาค 1 – 9 จํานวน 9 ศาล มีอํานาจพิจารณาคดีที่อุทธรณ์คาพิพากษาหรือคาสั่ง คดีแพ่ง คดีผู้บริโภค คดี
สิ่งแวดล้อม คดีอาญา และคดีเลือกตั้ง
- ศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ จํานวน 1 ศาล มีอํานาจพิจารณาคดีที่อุทธรณ์คาพิพากษาหรือ คาสั่งคดีทรัพย์สินทางปัญญาและ
การค้าระหว่างประเทศ คดีภาษีอากร คดีแรงงาน คดีล้มละลาย และคดีเยาวชนและครอบครัว
31. ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีที่ทําการอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี
32. ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีที่ทําการที่ จังหวัดระยอง
33. ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีที่ทําการที่ จังหวัดนครราชสีมา
34. ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีที่ทําการที่ จังหวัดขอนแก่น
35. ศาลอุทธรณ์ภาค 5 มีที่ทําการที่ จังหวัดเชียงใหม่
36. ศาลอุทธรณ์ภาค 6 มีที่ทําการที่ จังหวัดนครสวรรค์
37. ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีที่ทําการที่ จังหวัดนครปฐม
38. ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีที่ทําการที่ จังหวัดภูเก็ต
39 .สําหรับศาลชั้นอุทธรณ์ภาคเปิดทําการอยู่ในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ภาค 7 และภาค 9 ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ชํานัญพิเศษ
40. ศาลฎีกา เป็นศาลสูงสุด มีประธานศาลฎีกาซึ่งเป็นประมุขของตุลาการศาลยุติธรรม เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด
41. ศาลฎีกามีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีที่อุทธรณ์คําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์แล้วแต่กรณีตามบทบัญญัติแห่ง
กฎหมายว่าด้วยการอุทธรณ์ฎีกา และมีอํานาจวินิจฉัยชี้ขาดคดีที่ศาลฎีกามีอํานาจวินิจฉัยได้ตามกฎหมายเฉพาะ
42. องค์คณะพิจารณาพิพากษาคดีประกอบด้วยกี่คน ตอบ ผู้พิพากษาอย่างน้อย 3 คน
43. บุคคลที่ควรจํา
1) ประธานศาลฎีกา คือ นายไสลเกษ วัฒนพันธ์
2) เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม คือ นายสราวุธ เบญจกุล
3) เลขาธิการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม คือ นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล
4) โฆษกสํานักงานศาลยุติธรรม คือ นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล
44. หลักเกณฑ์การปรับเป็นพนักงานราชการของศาลยุติธรรม
1) เป็นลูกจ้างชั่วคราวซึ่งจ้างโดยเงินงบประมาณมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี
2) มีผลการประเมินไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 จากผลการปฏิบัติงาน 3 ปีย้อนหลัง
3) ต้องไม่มาปฏิบัติราชการสายเกินกว่า 25 ครั้ง ในปีงบประมาณสุดท้ายก่อนรับการประเมินและ ต้องไม่มาสายเกิน 25 ครั้ง
ในสองปีย้อนหลังก่อนปีงบประมาณสุดท้ายก่อนได้รับการประเมิน
นนทวิกา วงษ์สกุล