Page 144 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 144

คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง   ๑๑๖


                            พิเคราะห์แล้ว คดีมีประเด็นข้อพิพาทยุ่งยาก เห็นควรชี้สองสถาน สอบคู่ความแล้ว

                  แถลงไม่ค้าน

                            พิเคราะห์ค าฟ้องและค าให้การแล้ว  คดีมีประเด็นข้อพิพาทดังนี้ . . . . .”  (ก าหนดหน้าที่

                  น าสืบและนัดสืบพยานต่อไป  แต่หากเห็นว่า คดีมีประเด็นข้อพิพาทไม่ยุ่งยากก็สั่งงดชี้สองสถาน

                  แล้วนัดสืบพยานต่อไปตามรูปคดี)

                            ในกรณีศาลจังหวัดสงขลาไม่ยินยอมรับโอนคดี ให้ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ส่งเรื่องให้

                  ประธานศาลอุทธรณ์ชี้ขาด  ไม่ว่าศาลชั้นต้นที่มีคดีขอรวมการพิจารณาหรือศาลที่รับโอนจะอยู่

                  ในเขตอ านาจของศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาค   ค าสั่งชี้ขาดดังกล่าวเป็นที่สุดตามมาตรา

                  ๒๘ วรรคสอง



                  ๓.  ผลการรวมพิจารณาคดี


                            ๓.๑  การยื่นบัญชีพยานในคดีที่รวมการพิจารณา  ให้ยื่นไว้ในส านวนหลักโดยระบุเลขคดี

                  ที่ผู้ยื่นเป็นคู่ความในส านวนนั้น

                                     คดีที่ศาลรวมการพิจารณา  เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันทุกส านวนได้ยื่นบัญชี

                  พยานไว้ในส านวนคดีหนึ่ง โดยระบุเลขคดีเพียงคดีเดียวเท่านั้น แต่ชื่อคู่ความก็ลงชื่อโจทก์

                  กับพวกและชื่อจ าเลยกับพวก ชื่อพยานก็ระบุชื่อโจทก์ทุกส านวนอ้างตนเองเป็นพยาน พยาน

                  เอกสารก็อ้างเอกสารของโจทก์ทุกคน ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการยื่นบัญชีพยานรวมกันทุกส านวน

                  แม้จะมิได้ใส่เลขคดีให้ครบถ้วนก็เป็นความบกพร่องเล็กน้อย โจทก์จึงมีสิทธิน าพยานเข้าสืบ

                  ตามบัญชีพยานที่ระบุไว้นั้นได้ทุกส านวน (ฎีกาที่ ๑๓๙๑ - ๑๓๙๘/๒๕๐๙)


                            ๓.๒  การพิจารณาคดีที่รวมการพิจารณา  ศาลย่อมพิพากษาคดีเหล่านั้นไปในค าพิพากษา

                  ฉบับเดียวกัน เพราะเป็นการสะดวกแก่ศาลที่ไม่ต้องท าค าพิพากษาหลายฉบับ  แต่บางคดีที่รวม

                  การพิจารณาด้วยกัน อาจไม่สะดวกในการที่จะพิพากษารวมกันหรือมีข้อหาใดไม่เกี่ยวข้องในคดี

                  (มาตรา ๒๙) ศาลอาจแยกพิจารณาก็ได้โดยพิพากษาคดีเหล่านั้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งก่อนแล้ว

                  จึงพิพากษาเรื่องอื่น ๆ ต่อไปภายหลังก็ได้ (มาตรา ๑๓๙) และศาลที่รับโอนคดีที่สั่งแยก

                  ย่อมพิพากษาไปได้


                            ๓.๓  แม้ศาลจะอนุญาตให้รวมพิจารณาคดีสองส านวนเข้าด้วยกัน  แต่การพิจารณาว่าจะ

                  อุทธรณ์ฎีกาได้หรือไม่  ต้องพิจารณาทุนทรัพย์ที่พิพาทเป็นรายคดี (ค าสั่งค าร้องศาลฎีกาที่ ๔๐๒/๒๕๒๒)

                  และในชั้นตรวจรับอุทธรณ์ฎีกา ให้ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าอุทธรณ์ฎีกาในส านวนใดหรือทุกส านวน
   139   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149