Page 245 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 245

คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง   ๒๑๗


                  มาฟังประกอบอีกไม่  ดังนั้น  ปัญหาที่ว่าศาลอุทธรณ์น าค ารับในค าให้การของจ าเลยมาวินิจฉัยร่วมกับ

                  ผลการตรวจพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญให้จ าเลยแพ้คดีเป็นการชอบหรือไม่  จึงไม่จ าเป็นต่อรูปคดี

                  ที่ศาลฎีกาต้องวินิจฉัยอีกต่อไป (ฎีกาที่ ๑๑๐๐/๒๕๓๑)


                        ๓.๒  ข้อเท็จจริงตามค าท้าฟังได้ไม่สมฝ่ ายใดเลย

                                      จะต้องด าเนินกระบวนพิจารณาต่อไปเสมือนหนึ่งไม่มีค าท้า  หรือตัดสินชี้ขาดคดี

                  เสมือนหนึ่งคู่ความทั้งสองฝ่ายไม่สืบพยาน (แล้วแต่กรณีตามข้อตกลงในค าท้า) เช่น

                                      ๓.๒.๑ คู่ความท้ากันให้ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ลายมือชื่อและลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญากู้

                  และสัญญาค ้าประกัน  เป็นข้อแพ้ชนะ เมื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจแล้วรายงานต่อศาลว่าลายมือชื่อ

                  ในสัญญากู้มีลักษณะเชื่อได้ว่าไม่ใช่ของจ าเลย  และลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญาค ้าประกันเลอะ

                  ไม่ชัดพอที่จะตรวจได้  ดังนี้  ถือว่าผลการตรวจพิสูจน์ไม่ครบถ้วนตามค าท้าจะพิพากษาให้โจทก์


                  แพ้คดีไม่ได้  ต้องพิจารณาคดีต่อไปเสมือนหนึ่งไม่มีการท้า (ฎีกาที่ ๖๒/๒๔๙๙, ๔๑๕/๒๕๐๗)
                                      ๓.๒.๒ คู่ความตกลงให้สืบพยานร่วมคนเดียว  พยานเบิกความอย่างไร ก็ให้ศาล

                  พิพากษาไปตามค าพยาน ไม่สืบพยานอื่นต่อไป เมื่อศาลชั้นต้นสืบพยานร่วมนั้นแล้ว  แม้ค าพยาน

                  รับฟังสมฝ่ายใดไม่ได้  ก็ไม่จ าต้องสืบพยานต่อไป  ควรพิจารณาไปตามประเด็นแห่งคดีเหมือน

                  ไม่มีการสืบพยาน  เพราะคู่ความแถลงไม่ติดใจสืบพยานไว้แล้ว (ฎีกาที่ ๖๓๓/๒๔๙๒)

                                      ๓.๒.๓ โจทก์จ าเลยท้ากันเป็นข้อแพ้ชนะโดยก าหนดจ านวนเนื้อที่ดินของแต่ละ


                  ฝ่ายไว้  แล้วให้เจ้าพนักงานที่ดินไปรังวัดตามที่เป็นจริง  ถ้าฝ่ายใดเกินอีกฝ่ายหนึ่งขาดฝ่ายที่เกิน
                  ยอมแพ้  แต่ปรากฏจากการรังวัดว่าเนื้อที่ดินของจ าเลยน้อยกว่าจ านวนที่ท้ากันถึงเกือบหนึ่งในห้า


                  เห็นได้ว่าเนื้อที่ดินอันเป็นตัวตั้งเพื่อหาสัดส่วนเนื้อที่ดินของทั้งสองฝ่ายตามค าท้าผิดไปมาก

                  และไม่ตรงตามค าท้า  ศาลย่อมไม่สามารถที่จะวินิจฉัยชี้ขาดคดีไปตามค าท้าได้  ค าท้าของโจทก์

                  จ าเลยจึงตกไป  ชอบที่จะต้องด าเนินกระบวนพิจารณาตามประเด็นข้อพิพาทต่อไป (ฎีกาที่

                  ๑๗๒๖/๒๕๒๘)

                                      ๓.๒.๔  โจทก์ฟ้องว่า  จ าเลยปลูกสร้างบ้านและรั้วบนที่ดินสาธารณะปิดหน้าที่ดิน

                  ของโจทก์  จ าเลยให้การว่า  บ้านและรั้วตั้งอยู่บนที่ดินที่ติดกับที่ดินของจ าเลย  มิได้อยู่ใน

                  เขตโฉนดที่ดินของจ าเลย  คู่ความท้ากัน  ให้เจ้าพนักงานที่ดินไปรังวัดสอบเขตที่ดินของจ าเลย

                  หากได้ความว่าที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดที่ดินของจ าเลยและไม่ใช่ที่สาธารณะโจทก์ยอมแพ้คดี

                  หากที่พิพาทอยู่นอกเขตโฉนดที่ดินของจ าเลยและเป็นที่สาธารณะ  จ าเลยยอมแพ้คดี  ปรากฏว่า

                  เจ้าพนักงานที่ดินมิได้รังวัดสอบเขตตามค าท้า  แต่กลับรังวัดท าแผนที่พิพาทไปตามเขตที่

                  ครอบครองซึ่งโจทก์จ าเลยน าชี้  โดยจ าเลยน าชี้ว่าที่พิพาท  อยู่ในเขตโฉนดที่ดินของตนซึ่งนอก
   240   241   242   243   244   245   246   247   248   249   250