Page 246 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 246

คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง   ๒๑๘


                  ค าให้การดังกล่าวข้างต้น  แผนที่พิพาทจึงไม่ได้เกิดจากการที่เจ้าพนักงานที่ดินสอบเขตที่ดิน

                  ตามค าท้า  ฉะนั้น  แนวเขตเส้นสีแดงในแผนที่พิพาทจึงถือไม่ได้ว่าเป็นแนวเขตที่ดินตามโฉนด

                  ของจ าเลย ทั้งตามหนังสือน าส่งแผนที่พิพาทของเจ้าพนักงานที่ดินก็มีข้อความว่า ไม่สามารถ

                  ระบุได้ว่าที่พิพาทอยู่ในเขตที่ดินสาธารณประโยชน์หรือไม่  เนื่องจากผู้แทนประธานสุขาภิบาล

                  ไม่สามารถชี้เขตที่ดินสาธารณะที่แน่นอนได้  แสดงว่าไม่สามารถปฏิบัติตามค าท้าที่ว่าที่พิพาท

                  เป็นที่สาธารณะหรือไม่  จึงไม่อาจน าแผนที่พิพาทมาใช้เป็นหลักฐานในการวินิจฉัยตามค าท้าได้

                  จะต้องด าเนินกระบวนพิจารณาต่อไป (ฎีกาที่ ๓๑๔๕/๒๕๓๒)

                                      ๓.๒.๕  ตามรายงานกระบวนพิจารณาปรากฏว่า จ าเลยที่ ๒ แต่ฝ่ายเดียวเป็น  ผู้แถลง

                  รับและต่อสู้ตลอดจนยอมรับข้อเท็จจริงที่ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ได้ว่าผลเป็นอย่างไร

                  ตนยอมรับตามนั้น  โจทก์เพียงแต่แถลงไม่ค้าน ซึ่งหมายความเพียงว่าไม่ค้านการที่ศาลจะส่ง

                  เอกสารต่าง ๆ ไปให้ผู้เชี่ยวชาญท าการตรวจพิสูจน์เท่านั้น  โจทก์หาได้ยอมรับผลการตรวจ


                  พิสูจน์เป็นข้อแพ้ชนะตามที่จ าเลยที่ ๒ แถลงด้วยแต่อย่างใดไม่ รายงานการตรวจพิสูจน์ของ
                  ผู้เชี่ยวชาญที่ระบุว่า ไม่อาจจะลงความเห็นให้เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใดได้นั้น  แสดงให้


                  เห็นว่าผลการตรวจพิสูจน์ดังกล่าวศาลไม่อาจวินิจฉัยชี้ขาดได้  จึงต้องรับฟังพยานหลักฐานอื่น

                  ต่อไป  (ฎีกาที่๒๒๗๔/๒๕๓๗)

                                      ๓.๒.๖ โจทก์จ าเลยท้ากันว่า หากคดีอาญาซึ่งจ าเลยถูกฟ้องเป็นจ าเลย  ศาลมีค าพิพากษา

                  ถึงที่สุดว่าจ าเลยมีความผิดตามฟ้อง  จ าเลยยอมแพ้  แต่หากศาลมีค าพิพากษาถึงที่สุดว่าจ าเลยไม่มี

                  ความผิด โจทก์ยอมแพ้  และคู่ความแถลงไม่ติดใจสืบพยาน  เมื่อคดีอาญาดังกล่าวได้มีค า

                  พิพากษาถึงที่สุด โดยศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องเพราะฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เท่ากับศาลมิได้

                  พิพากษาว่าจ าเลยมีความผิดหรือไม่มีความผิดตามฟ้อง   ศาลก็ไม่อาจวินิจฉัยชี้ขาดให้ฝ่ายหนึ่ง

                  ฝ่ายใดชนะหรือแพ้คดีตามค าท้าได้  ชอบที่ศาลจะต้องรับฟังพยานหลักฐานอื่นของโจทก์จ าเลย

                  ต่อไป  แม้ข้อความค าท้าตามรายงานกระบวนพิจารณาจะระบุว่าคู่ความไม่ติดใจสืบพยาน

                  ก็มีความหมายเพียงว่าหากค าพิพากษาคดีอาญาถึงที่สุดอย่างหนึ่งอย่างใดตามค าท้าแล้ว  คู่ความ

                  จะไม่ติดใจสืบพยาน  จะถือว่าในกรณีค าพิพากษาคดีอาญาอันถึงที่สุดไม่ชี้ขาดว่าจ าเลยมีความผิด

                  หรือไม่  คู่ความก็ไม่ติดใจสืบพยานหาได้ไม่ (ฎีกาที่ ๔๘๕๘/๒๕๓๗)

                                   ๓.๒.๗ คู่ความท้ากันและขอให้ศาลพิพากษาตามค าท้า  แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏ

                  ไม่อาจพิพากษาให้เป็นไปตามข้อตกลงตามค าท้าได้  โจทก์เป็นผู้กล่าวอ้าง  จ าเลยปฏิเสธ โจทก์

                  จึงมีหน้าที่น าสืบ  เมื่อโจทก์แถลงต่อศาลขอให้ศาลพิพากษาตามรูปคดีถือว่าไม่ติดใจสืบพยาน

                  ต่อไป โจทก์ไม่น าพยานเข้าสืบตามประเด็นที่มีหน้าที่น าสืบย่อมต้องแพ้คดีในประเด็นนั้น

                  (ฎีกาที่ ๓๔๑๒/๒๕๓๘)
   241   242   243   244   245   246   247   248   249   250   251