Page 329 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 329
คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง ๓๐๑
หากโจทก์ยื่นค าร้องภายหลังจากศาลชั้นต้นส่งส านวนไปศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกาแล้ว
ศาลชั้นต้นมีอ านาจไต่สวนได้ แต่ไม่มีอ านาจสั่งต้องส่งส านวนไปให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาสั่ง
(ค าสั่งค าร้องศาลฎีกาที่ ๓๖๓/๒๕๑๒)
๓. ค าขอท าเป็นค าร้องฝ่ ายเดียว และกรณีโจทก์มีค าขอตามมาตรา ๒๕๔ (๒) (๓)
ศาลมีอ านาจฟังคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนก็ได้ ตามมาตรา ๒๑ (๓) และมาตรา ๒๕๖ เว้นแต่ขอให้ยึด
หรือ อายัดทรัพย์สินก่อนพิพากษา หรือจับหรือจ าขังจ าเลยตามมาตรา ๒๑ (๓) และกรณีตามมาตรา
๒๖๖ - ๒๖๗ ไม่ต้องฟังอีกฝ่าย ให้ท าได้แต่ฝ่ายเดียว
๔. ตัวอย่างค าขอที่ศาลให้น าวิธีคุ้มครองชั่วคราวมาใช้ได้ เช่น ห้ามปิดกั้นทางเดิน
ให้น ารถยนต์โดยสารเข้าไปจอดได้ หรือห้ามขุดก าแพง หรือขอให้บรรเทาความเดือนร้อนโดย
ขอให้รื้อถอนก าแพงที่จ าเลยก่อสร้างปิดทางภาระจ ายอม ถือว่ามีเหตุสมควรและเพียงพอที่จะน า
วิธีชั่วคราวตามมาตรา ๒๕๔ (๒) ที่โจทก์ขอมาใช้บังคับ แต่คงให้รื้อถอนเฉพาะบริเวณติดกับ
ที่ดินโจทก์เท่านั้น (ฎีกาที่ ๗๒๒๑/๒๕๔๔) หรือขอให้ห้ามจ าเลยซึ่งเป็นผู้เช่าน าที่ดินและ
สิ่งปลูกสร้างของโจทก์ ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าไปให้ผู้อื่นเช่าช่วงในคดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่จ าเลย (ฎีกาที่
๑๘๖๘/๒๕๔๘)
อย่างไรก็ดี หากโจทก์และจ าเลยยังคงอ้างว่า ที่ดินพิพาทเป็นของตน ศาลคงมีค าสั่ง
ห้ามชั่วคราวมิให้จ าเลยกั้นรั้วลวดหนามเพิ่มเติม และห้ามมิให้จ าเลยเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดิน
พิพาทต่อไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุดเท่านั้น จะสั่งให้จ าเลยรื้อถอนรั้วลวดหนามและเสาปูนซิเมนต์
ให้กลับคืนสภาพเดิมนั้นในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลยังไม่ได้ เพราะโจทก์และจ าเลย
ต่างยังไม่สมควรเข้าไปท าสิ่งใดในที่ดินพิพาทเนื่องจากอาจเป็นเหตุให้อีกฝ่ายเดือดร้อน
เสียหายได้หากศาลพิพากษาให้ฝ่ายนั้นชนะคดี (ฎีกาที่ ๗๘๑๘/๒๕๔๒)
๕. โจทก์ต้องน าสืบให้ได้ความมาตรา ๒๕๕ ถ้าน าสืบแต่เพียงว่าจ าเลยมีหนี้มากกว่า
ทรัพย์สินในร้านจ าเลย ไม่ได้ความว่าจ าเลยตั้งใจจะโอนขายหรือจ าหน่ายทรัพย์สินของจ าเลย
ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือยักย้ายไปเสียให้พ้นจากอ านาจศาลยังไม่มีเหตุอนุญาตตามค าขอ
(ฎีกาที่ ๙๒๐/๒๕๒๔)
๖. จ าเลยไม่มีสิทธิขอคุ้มครองชั่วคราวตามมาตรา ๒๕๔ (ค าสั่งค าร้องศาลฎีกาที่
๕๘๗/๒๕๑๓ ประชุมใหญ่) แต่ค าขอของจ าเลยเช่นว่านี้อาจถือว่าเป็นค าขอให้คุ้มครองประโยชน์
ในระหว่างพิจารณาตามมาตรา ๒๖๔ ก็ได้
ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๓๖๐/๒๕๕๐ โจทก์ยื่นค าร้องขอให้ศาลมีค าสั่งอายัดเงิน
ของจ าเลยที่มีอยู่และที่จะได้รับจากการประกอบกิจการ โดยให้จ าเลยส่งเงินทั้งหมดมาเก็บรักษา
ไว้ที่ศาลจนกว่าศาลจะมีค าพิพากษาถึงที่สุด มีผลเท่ากับบังคับให้จ าเลยน าเงินมาวางศาลเพื่อเอา