Page 352 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 352

คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง   ๓๒๔


                  หรือถูกบังคับโดยค าพิพากษานั้นโดยตรงหรือผลคดีตามกฎหมายจะมีผลไปถึงตน (ฎีกาที่

                  ๑๔๐๖/๒๕๔๑,๓๙๙๕/๒๕๔๑,๒๙๖๒/๒๕๔๓)

                           ค าว่า “เพราะตนมีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดีนั้น” ซึ่งเป็นเงื่อนไขส าคัญที่

                  จะร้องสอดเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมหรือจ าเลยร่วมหรือเข้าแทนที่คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียทีเดียว

                  โดยได้รับความยินยอมของคู่ความฝ่ายนั้นตามมาตรา ๕๗ (๒) นั้น หมายถึง ผู้ร้องจะต้องเป็นผู้ที่

                  ถูกกระทบกระเทือนหรือถูกบังคับโดยค าพิพากษานั้นโดยตรง หรือผลคดีตามกฎหมายจะมีผล

                  ไปถึงตนด้วย (ฎีกาที่ ๑๔๐๖/๒๕๔๑)  ได้แก่

                           (๑) ผู้มีกรรมสิทธิ์รวม

                           ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๕๗ และมาตรา ๑๓๕๘ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้เป็น

                  เจ้าของรวมมีส่วนเท่ากันและมีสิทธิจัดการทรัพย์สินรวมกัน และมาตรา ๑๓๕๙ เจ้าของรวม

                  คนหนึ่งๆ อาจใช้สิทธิอันเกิดแต่กรรมสิทธิ์ครอบไปถึงทรัพย์สินทั้งหมดได้ ส่วนมาตรา ๑๓๖๓


                  เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ อาจใช้สิทธิ์เรียกให้แบ่งทรัพย์สินได้ และมาตรา ๑๓๖๕ เจ้าของรวม
                  ต้องรับผิดร่วมกันต่อบุคคลภายนอกในหนี้อันเกี่ยวกับทรัพย์สินรวมด้วย ดังนั้น ในกรณีที่มี


                  การฟ้องร้องเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์รวม ผู้เป็นเจ้าของรวมย่อมถือว่าเป็นผู้มีส่วน

                  ได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดีตามมาตรา ๕๗ (๒)

                           ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๖๖๒/๒๕๕๐  ผู้ร้องร้องสอดเข้ามาในคดี อ้างว่าผู้ร้องเป็น

                  เจ้าของที่ดินพิพาทร่วมกับโจทก์ โจทก์ฟ้องคดีโดยพลการ ผู้ร้องอาจได้รับความเสียหายจากการ

                  กระท าของโจทก์ ผู้ร้องจึงมีส่วนได้เสียในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินร่วมกับโจทก์ ชอบ

                  ที่จะร้องสอดเข้ามาด้วยความสมัครใจเองเพราะตนมีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผล

                  แห่งคดีนั้นตามมาตรา ๕๗ (๒)

                           (๒)  บริวารของจ าเลยผู้ถูกฟ้องขับไล่

                           ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๔๒ (๑) ค าพิพากษาหรือค าสั่งให้ขับไล่จ าเลยมีผลใช้บังคับถึง

                  บริวารของจ าเลยด้วย บริวารของจ าเลยจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดีตาม

                  มาตรา ๕๗ (๒)

                           ค าพิพากษาศาลฎีกาที่  ๓๔๘/๒๕๓๓ โจทก์ฟ้องขับไล่จ าเลยและบริวารออกจาก

                  ที่ดินพิพาท ซึ่งผู้ร้องและจ าเลยอยู่อาศัย มีผลเสมือนว่าโจทก์ฟ้องขับไล่ผู้ร้องด้วย ผู้ร้องจึงมีส่วน

                  ได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดีตามมาตรา ๕๗ (๒) (ฎีกาที่ ๔๔๔/๒๕๑๒ วินิจฉัยท านอง

                  เดียวกัน)

                           ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๘๐๓/๒๕๓๗ โจทก์ฟ้องขับไล่จ าเลยและบริวารออกจาก

                  ที่ดินพิพาท จ าเลยให้การว่าผู้ร้องซึ่งเป็นบุตรเขยของจ าเลยได้ตกลงเช่าที่ดินกับโจทก์ต่อจากสามี
   347   348   349   350   351   352   353   354   355   356   357