Page 51 - Chiang rai medical journal

นิพนธ์ต้นฉบับ
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลของยาสเตียรอยด์ทาเฉพาะที่
และยาสเตียรอยด์ทาเฉพาะที่ร่วมกับพ่นก๊าซไนโตรเจนเหลว
ในการรักษาโรคด่างขาวชนิดปลายมือเท้า

ผลการศึกษา หลังจากติดตามการรักษาเป็นเวลา

ผู้ป่วยโรคด่างขาวชนิดปลายมือเท้า 8 สัปดาห์ พบว่า พื้นที่ด่างขาวของผู้ป่วย
(Acral Vitiligo) มีทั้งหมด 8 ราย โดยแบ่งเป็นกลุ่ม แต่ละรายลดลงทั้ง 2 กลุ่ม (ภาพที่ 2) โดยกลุ่ม

ศึกษาและกลุ่มควบคุม โดยข้อมูลพื้นฐานของทั้ง ที่ได้รับยาสเตียรอยด์ Desoximetasone
2 กลุ่มไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (ตารางที่ 1) ทาเฉพาะที่ร่วมกับก๊าซไนโตรเจนเหลว พื้นที่

ในกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยยาสเตียรอยด์ทา ด่างขาวเฉลี่ยลดลงจาก 142.8 ± 217.8 ตร.ซม.

เฉพาะที่ Desoximetasone ร่วมกับพ่นก๊าซ เป็น 111.2 ± 171.2 ตร.ซม. ส่วนกลุ่มที่ได้รับ
ไนโตรเจนเหลว พบว่า มีผู้ป่วย1 ราย ที่เคยได้รับ ยาสเตียรอยด์ Desoximetasone ทาเฉพาะที่

การรักษามาก่อน โดยเคยรักษาด้วยวิธีการใช้ อย่างเดียว ลดลงจาก 63.3 ± 73.6 ตร.ซม.
ยาสเตียรอยด์ทาเฉพาะที่ร่วมกับ Narrowband เป็น 51.7 ± 68.0 ตร.ซม. (ตารางที่ 2 และภาพ

UVB เมื่อ 1 ปีก่อนเข้าการศึกษา แล้วกลับเป็นซ้ า ที่ 3) แต่เมื่อเปรียบเทียบผลการรักษาระหว่าง 2
เมื่อพิจารณาพื้นที่ด่างขาวก่อนรับการรักษาในแต่ กลุ่ม พบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยส าคัญ

ละราย พบว่า ส่วนใหญ่มีพื้นที่ด่างขาวน้อยกว่า ทางสถิติ (P=0.517)

50 ตร.ซม. มีผู้ป่วยจ านวน 3 ราย ที่มีพื้นที่ด่าง
ขาวมากกว่า 100 ตร.ซม. โดยอยู่ในกลุ่มที่ได้รับ
Topical Desoximetasone ร่วมกับพ่นก๊าซ

ไนโตรเจนเหลวจ านวน 2 ราย คือ 124 ตร.ซม.
และ 524 ตร.ซม. และอยู่ในกลุ่มที่ได้รับ Topical
Desoximetasone อย่างเดียว จ านวน 1 ราย คือ
148 ตร.ซม. ท าให้ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD)

ของทั้ง 2 กลุ่มค่อนข้างสูง นอกจากนี้เมื่อ ภาพที่ 2 การเปลี่ยนแปลงพื้นที่ด่างขาวของผู้ป่วยแต่ละราย
เปรียบเทียบพื้นที่ด่างขาวเฉลี่ยก่อนรับการรักษา
พบว่า ในกลุ่ม Topical Desoximetasone

ร่วมกับพ่นก๊าซไนโตรเจนเหลว มีพื้นที่มากกว่า
กลุ่ม Topical Desoximethasone อย่างเดียว

โดยไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญ
ทางสถิติ (p=0.487)

ภาพที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ด่างขาวเฉลี่ย (ตร.ซม.)
หลังเข้ารับการรักษา ติดตามทุก 2 สัปดาห์

จนครบ 8 สัปดาห์

ปีที่ ๙ ฉบับที่ ๑/๒๕๖๐ 51