Page 111 - คู่มือวิทยากร โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา โมเดล"
P. 111
การปลูกป่าทดแทนตามไหล่เขา ทรงมีพระราชด ารัสว่า การปลูกป่าทดแทนตามไหล่เขา
จะต้องปลูกต้นไม้หลายๆ ชนิด เพื่อให้ได้ประโยชน์อเนกประสงค์ คือ มีทั้งไม้ผล ไม้ส าหรับก่อสร้าง และไม้
ส าหรับท าฟืนซึ่งราษฎรจ าเป็นต้องใช้ ซึ่งเมื่อตัดไปใช้แล้วก็ปลูกทดแทนเพื่อหมุนเวียนทันที
การปลูกป่าทดแทนในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม ทรงมีพระราชด ารัสว่า ให้ปลูกต้นไม้ชนิดโตเร็วคลุม
แนวร่องน้ าเสียก่อนเพื่อให้ความชุ่มชื้นค่อยๆ ทวีขึ้น และแผ่ขยายกว้างออกไปทั้งสองข้างร่องน้ าอันจะท าให้
ต้นไม้งอกงามขึ้น และจ ามีส่วนช่วยป้องกันไฟป่าได้
การปลูกป่าทดแทนบริเวณต้นน้ าบนยอดเขาและเนินสูง ต้องมีการปลูกป่าโดยปลูกไม้ยืนต้น
และปลูกไม้ฟืนซึ่งไม้ฟืนนั้นราษฎรสามารถ ตัดไปใช้ได้แต่ต้องมีการปลูกทดแทนเป็นระยะส่วนไม้ยืนต้นจะช่วย
ให้อากาศมี ความชุ่มชื้น ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งของระบบการให้ฝนแบบธรรมชาติทั้งยังช่วยยึดดินบนเขาไม่ ให้
พังทลายเมื่อเกิดฝนตกอีกด้วย
22. พระรำชด ำรัส ภูเขำป่ำ
ทฤษฎีการพัฒนาฟื้นฟูป่าไม้โดยใช้ความรู้เบื้องต้นทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาเป็น
หลักการด าเนินการ การสร้างภูเขาป่าอันเนื่องมาจากพระราชด าริ เป็นมรรควิธีที่พระราชทานแนวคิดที่เป็น
ทฤษฎีการพัฒนา อันเป็นมิติใหม่แก่วงการป่าไม้ 2 ประการ คือ
ประการแรก หากมีน้ าใกล้เคียงบริเวณนั้นโดยมีพระราชด ารัสว่า
ป่าต้นน้ า“...ควรส ารวจแหล่งน้ าเพื่อการพิจารณาสร้างฝายขนาดเล็กปิดกั้นร่องน้ าใน เขตต้น
น้ าล าธารทั้งนี้เพื่อแผ่กระจายความชุ่มชื้นออกไปให้กว้างขวางอันจะ ช่วยฟื้นฟูสภาพป่าในบริเวณที่สูงให้
สมบูรณ์ขึ้น บริเวณดังกล่าวจะได้กลาย เป็น “ภูเขาป่า” ในอนาคต ซึ่งหมายความว่า มีต้นไม้นานาชนิดซึ่งปก
คลุมดินในอัตรา หนาแน่นที่เหมาะสมกับลักษณะ ภูมิประเทศแต่ละแห่ง ต้นไม้เหล่านั้นจะมีผล ช่วยรักษาระดับ
ความชุ่มชื้นใน ธรรมชาติให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอเหมาะ ไม่แห้งแล้งเกินไปและยังช่วยยึดพื้นผิวดิน อันมีค่าไม่ให้ถูก
น้ าเซาะทลายลงมา ยังพื้นที่ราบอีกด้วย...”
23. ป่ำเปียก
เป็นทฤษฎีการพัฒนาป่าไม้โดยใช้ทรัพยากรน้ าให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสร้างแนวป้องกัน
ไฟเปียก (wet fire break) ความชุ่มชื้นที่เกิดขึ้นท าให้ไฟป่าเกิดยากส่งผลให้การพัฒนาและอนุรักษ์ฟื้นฟูง่าย
และได้ผลมากขึ้นวิธีการสร้างป่าเปียก
1. ใช้แนวคลองส่งน้ า
2.สร้างระบบควบคุมไฟด้วยแนวกันไฟอาศัยน้ าชลประทานและน้ าฝน
3.ปลูกไม้โตเร็วคลุมร่องน้ า
4.สร้างฝายชะลอความชุ่มชื้น check dam
5.สูบน้ าด้วยพลังงานธรรมชาติขึ้นที่สูงแล้วปล่อยลงมาให้ไหลซึม ช่วยเร่งรัดการปลูกป่าไม้
ช่วยแปร สภาพโครงการภูเขาป่าให้เป็นป่าเปียก
6. ปลูกกล้วยเป็นแนวปะทะ 2 เมตร เพราะกล้วยสามารถอุ้มน้ าไว้ได้มาก

