Page 4 - สัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์

สัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์

กัน อันเป็นแดนเกิดของสัตว์ที่เรียกว่า”มนุษย์” ซึ่งกิเลสมากก็มี กิเลสน้อยก็มี อินทรีย์แก่กล้าก็มี อินทรีย์

อ่อนก็มี ใฝ่ดีก็มีใฝ่เลวก็มี สอนให้รู้ได้ง่ายก็มี สอนให้รู้ได้ยากก็มี มีปกติเห็นโทษภัยในโลกหน้าก็มี เปรียบ

เหมือนบัวสามเหล่า ได้แก่ ปทุมดอกสีชมพู อุบลดอกสีชมพูอมม่วง บุญฑริกดอกสีขาว ซึ่งเกิดในน้ า

เจริญเติบโตในน้ า

๑.บางเหล่าเกิดแล้วในน้ าเจริญแล้วในน้ าอาศัยอยู่ในน้ าจมอยู่ในน้ ามีน้ าเลี้ยงอยู่

๒.บางเหล่าเกิดแล้วในน้ าเจริญแล้วในน้ าตั้งอยู่เสมอน้ า

๓.บางเหล่าเกิดแล้วในน้ าเจริญแล้วในน้ าตั้งขึ้นพ้นน้ าไม่ส่วนไหนติดน้ าแล้ว

ส่วนความสามารถในการเรียนรู้ธรรมของมนุษย์นั้นมี ๔ กลุ่มคือ ๑.อุคฆฏิตัญญู กลุ่มนี้เพียงแค่

ยกหัวข้อขึ้นกล่าวก็รู้ธรรมได้ ๒.วิปจิตัญญู กลุ่มนี้เมื่อได้รับการอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมก็รู้ธรรมได้ ๓.

เนยยะ กลุ่มนี้ค่อยๆ อธิบายไปตามล าดับให้ซักถามสนทนาก็รู้ธรรมได้ ๔.ปทปรมะ กลุ่มนี้เป็นพวกฟัง

มาก จ ามาก พูดมากเหลือประมาณแต่ก็ไม่อาจรู้ธรรมได้

เธอจงรู้ไว้ว่าสัตว์ ในที่นี้คือผู้ที่ยังข้องแวะในขันธ์ทั้ง ๕ ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขารและ

วิญญาณ นั่นแหละคือสัตว์ เพราะสัตว์ทั้งสามโลกนี้ยังมีความเพลิดเพลิน ยินดี อาลัยอาวรณ์ ในขันธ์

ทั้งหลาย สัตว์จึงยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในโลกทั้งสาม ด้วยการประกอบกรรมทั้งสามคือมโนกรรม จี

กรรมและกายกรรม จนเกิดวิบากกรรมทั้งสองคือกุศลกรรมและอกุศลกรรม หาทางออกไม่เจอ ต่อแต่นี้ไป

ฉันจะพูดกับเธอในฐานะมนุษย์ผู้ที่มีสติเป็นเครื่องน าทางอันทรงพลัง ที่หามิได้นี้ในสัตว์อื่น เธอจงเปิดใจ

รับ ตั้งใจฟัง และจดจ าสิ่งเหล่านี้ไว้ แล้วน าไปเพ่งพิสูจน์ ทบทวนด้วยความอุตสาหะพากเพียรอย่าได้หยุด

หย่อน เธอจะรู้ไหมหนอว่า เราท่านเกิดมาเพื่ออะไรกัน ฉันจะบอกให้ก็ได้ว่า เราท่านทั้งหลายเกิดมา

~ ๓ ~ หญ้าพันปี