Page 5 - สัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์
P. 5

สัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์



               เพื่อรู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง  รู้วิธีที่จะอยู่กับโลกและหน้าที่สูงสุดคือหาที่สุดแห่งทุกข์หรือหาทางออก
               จากโลกนั่นเอง ในระหว่างทางนี้เธอจงท าหน้าที่ของเธอด้วยการแสวงหาสิ่งต่างๆ ที่จะน ามาเพื่ออ านวย


               ความสะดวกในการด ารงชีวิตอยู่ของเธอ  ด้วยการประกอบอาชีพสุจริต  ท าด้วยความขยันขันแข็ง  อย่าได้

               เกียจคร้าน  อย่าพลัดวันประกันพรุ่งเด็ดขาด  หากเธอจะกระท าการสิ่งใดก็ตามเธอจงท าด้วยการรู้จักเหตุ

               รู้จักผล รู้จักตน รู้จักประมาณ รู้จักเวลา รู้จักสถานที่  รู้จักบุคคล กระท าด้วยความรอบครอบ ไตร่ตรองให้

               รอบด้าน  อย่างมีสติและสัมปชัญญะ  ท าด้วยความมีวินัยเพราะไม่มีโชควาสนาใดน่ายินดีเท่ากับความมี

               วินัย จะท าการสิ่งใดเธออย่าพึ่งเชื่อใครๆ เพียงเพราะว่า     ๑.เชื่อตามถ้อยค าที่ได้ยินได้ฟังมา  ๒.เชื่อตาม

               ถ้อยค าสืบๆ  กันมา    ๓.เชื่อโดยตื่นข่าวว่าได้ยินอย่างนี้            ๔.เชื่อโดยอ้างต ารา  ๕.เชื่อโดยเดาเอาเอง

               ๖.เชื่อโดยคาดคะเน ๗.เชื่อโดยความตรึกตามอาการ ๘.เชื่อโดยชอบใจว่าตรงกันกับทิฐิของตน ๙.เชื่อโดย

               เชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้ ๑๐.เชื่อโดยความนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา   เมื่อใดก็ตามเธอจงรู้ด้วย

               ตนเองว่า ถ้าเชื่อแล้วสิ่งเหล่านี้ เป็นอกุศล สิ่งเหล่านี้มีโทษ สิ่งเหล่านี้ผู้รู้ติเตียน สิ่งเหล่านี้ใครกระท าแล้ว


               ย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์  เป็นไปเพื่อทุกข์  เมื่อนั้นเธอควรละสิ่งเหล่านั้นเสีย  ความโลภ  ความ

               โกรธ         ความหลงอันเป็นรากเหง้าของอกุศลเมื่อเกิดขึ้นในจิตใจใครแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เป็น

               ประโยชน์ ผู้มีจิตถูกความโลภ ความโกรธ ความหลงครอบง า มีจิตอันความโลภ ความโกรธ ความหลงรุม

               ล้อมอย่างนี้  ย่อมฆ่าสัตว์ก็ได้  ลักทรัพย์ก็ได้  ล่วงกามผู้อื่นก็ได้  พูดเท็จก็ได้  สิ่งใดเป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็น

               ประโยชน์เป็นไปเพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน  บุคคลผู้โลภ  โกรธ  หลงย่อมชักชวนผู้อื่นเพื่อให้เป็นอย่างนั้นก็ได้

               ดังนั้นเมื่อใดก็ตามเธอจงรู้ด้วยตนเองว่า  สิ่งเหล่านี้เชื่อแล้วท าตามแล้วเป็นกุศล  สิ่งเหล่านี้ไม่มีโทษ  สิ่ง

               เหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ สิ่งเหล่านี้ใครปฏิบัติบริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เป็นไปเพื่อความสุข

               เมื่อนั้นเธอควรเข้าถึงสิ่งเหล่านั้น   เมื่อเชื่อในสิ่งเหล่านี้แล้วจิตปราศจากความโลภ   ปราศจากความ

               พยาบาท  ไม่มีความหลงแล้วอย่างนี้  มีสัมปชัญญะ  มีสติมั่นคง  มีใจประกอบด้วยเมตตา  กรุณา  มุทิตา


               อุเบกขาแผ่ไปตลอดทั่วทุกทิศ  จิตไม่มีเวรอย่างนี้  มีจิตไม่มีความเบียดเบียนอย่างนี้  มีจิตไม่เศร้าหมอง

               อย่างนี้ มีจิตผ่องแผ้วอย่างนี้ เธอย่อมได้รับความอุ่นใจ ๔ ประการในปัจจุบันว่า ๑.ถ้าโลกหน้ามีจริง ผล

               วิบากของกรรมท าดีท าชั่วมีจริง  เหตุนี้เมื่อตายไปย่อมส่งให้เราเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์  ๒.ถ้าโลกหน้าไม่มี

               ผลวิบากของกรรมท าดีท าชั่วไม่มี  ในเมื่อเราไม่มีเวร  ไม่มีความเบียดเบียน  ไม่มีทุกข์  ย่อมอยู่เป็นสุขใน

               ปัจจุบัน ๓.ถ้าเมื่อบุคคลท าอยู่ชื่อว่าท าบาป เราไม่ได้คิดท าความชั่วให้แก่ใครๆไหนเลยทุกข์จักมากระทบ

               เราผู้ไม่ได้ท าบาปกรรม  ๔.ถ้าเมื่อบุคคลท าอยู่ไม่ชื่อว่าท าบาป เราก็ได้พิจารณาเห็น ตนว่าเป็นคนบริสุทธิ์

               แล้วทั้งสองส่วน นี่เป็นความอุ่นใจในปัจจุบัน อย่างนี้เป็นสิ่งที่เธอควรท า






                                                           ~ ๔ ~                                                                                                      หญ้าพันปี
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10