Page 9 - เที่ยวบินกลางคืน
P. 9
3
เสียงเครื่องยนตที่อยูหางไกลเริ่มดังชัดเจนยิ่งขึ้น เสียงซึ่งไดยินชัดเจน แสงไฟเปด
เครื่องหมายสีแดงกระพริบสดใสอยูบนหลังคาโรงเก็บเครื่องบิน แขวนอยูเหมือนกับเม็ดทับทิมจาก
สายอากาศวิทยุ ทําใหเกิดเงารูปสี่เหลี่ยมบนพื้นดิน
“มาถึงแลว!”
เครื่องบินเลื่อนเขามาหาพวกเขา หลังจากผานแสงขามซึ่งทําใหมันสองประกายสุกใส ในที่สุด
มันก็หยุดลงตรงหนาโรงเก็บ ชางเครื่อง และลูกเรือทั้งหลายเขามามุงรอเพื่อถายไปรษณียออกมา แต
นักบิน คือแปเลอแรง ไมขยับเขยื้อน
“อาว คุณรออะไรอยูหรือ”
นักบินซึ่งกําลังงวนอยูกับงานลึกลับบางอยางไมแยแสที่จะตอบ บางทีในหูของเขาอาจจะเต็ม
ไปดวยเสียงของการบิน เขาผงกศีรษะอยางสุขุมขณะที่เอนตัวไปขางหนาเพื่อทําอะไรบางอยางที่มอง
ไมเห็น ในที่สุดเขาก็หันกลับมามองดูพวกเจาหนาที่และลูกเรืออยางเย็นชา ราวกับวาพวกเขาเหลานั้น
เปนคนของเขา เขาดูเหมือนกําลังนับ วัด และชั่งน้ําหนักพวกนั้นอยู เขาสมควรจะไดเปนเจาของคน
เหลานี้ เขาคิดเชนเดียวกับโรงเก็บเครื่องบินที่ติดพูหอย และทางซีเมนตยาวเหลานี้ และนอกเหนือไป
กวานั้น คือเมืองอันอึกทึกวุนวายทั้งผูหญิง กับความอบอุนของมัน เขากําคนเหลานี้ไวในอุงมือ
เหมือนกับเปนสิ่งของ เนื่องจากเขาสามารถสัมผัสพวกเขา ไดยินพวกเขา และดูแคลนพวกเขาได ชั่ว
ครูหนึ่งเขารูสึกอยากจะขูตะคอกใหทุกคนออกไปจากที่ยืนชื่นชมดวงจันทรกันอยูอยางอาปากคาง
อยางเงียบกริบนากลัว แตแทนที่จะทําเชนนั้น เขากลับตอนรับทุกคนอยางทองไมรูรอน
“...เลี้ยงผมสักแกวสิ!”
แลวเขาก็ปนลงมา เขาอยากจะเลาใหพวกนั้นฟงเรื่องการบิน
“ถาเพียงแตพวกคุณรู...”
แตเมื่อไดตัดสินใจมั่นคงวาไดพูดเพียงพอแลว เขาก็เดินจากไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผา
*
ขณะที่รถตอนเดียวพรอมคนขับนําเขาไปยังบัวโนสไอเรส แปเลอแรงซึ่งนั่งติดกับรีวิแอรผู
เงียบขรึมและนายตรวจอารมณบูดรูสึกหดหูใจขึ้นมาฉับพลัน มันดีอยูหรอกที่ผานมาไดอยางนี้และที่ได
ปลอยคําสบถกันไปมาเมื่อเรายางเทาลงบนพื้นแข็งได มันทําใหเรารูสึกยิ่งใหญ! แตตอมา เมื่อเรามอง
กลับไป เราก็เริ่มสงสัย...
การขับเคี่ยวกับพายุหิมะที่ในที่สุดก็เปนความจริงและตรงไปตรงมา แตไมใชทาทางนาสงสัยที่
ทุกคนนึกไปเองเมื่อพวกเขาคิดวาตนอยูตามลําพัง “มันก็เหมือนกับการลุกลาม” เขาคิด “ใบหนา
ทั้งหลายเพียงแตซีดลงเล็กนอย แตทุกสิ่งทุกอยางเปลี่ยนไปอยางสิ้นเชิง”
เขาพยายามนึกถึงเหตุการณตามลําดับอยางรอบคอบ เขาไดบินเหนือเทือกเขาแอนดีส ภูเขา
พากันหลับใหลอยูภายใตผืนหิมะซึ่งปกคลุมอยู หิมะฤดูหนาวไดแผปกสันติสุขไปทั่วขุนเขา เหมือน
เรื่องราวเกาแกนับศตวรรษในซากปราสาท ซึ่งยาวหนึ่งรอยยี่สิบไมล กวางหนึ่งรอยยี่สิบไมล – ที่
ปราศจากมนุษย ลมหายใจแหงชีวิต และการเคลื่อนไหว ไมมีอะไรนอกไปจากแนวภูเขาตั้งดิ่งชันซึ่ง
เราถากไปที่ความสูงสองหมื่นฟุต ไมมีอะไรนอกไปจากเสื้อคลุมมหึมาของกอนหินที่ตั้งชันอยู ไมมี
อะไรนอกไปจากความเงียบที่รายมนตรอันนาสยองขวัญ
จากนั้น เมื่อเขาเขาใกลยอดเขาทูพังกาโต เขาหยุด ใช ที่นี่แหละที่เขาไดพบกับปาฏิหาริย
ในตอนแรกเขาไมไดสังเกตเห็นอะไร เพียงแตรูสึกแปลกๆ ขึ้นมา – เหมือนกับที่เรามักจะคิดวา
ตัวเองอยูตามลําพัง แลวก็รูสึกวามีใครกําลังจองดูอยู เขารูสึกวาตัวเองถูกหอมลอมไปดวยอารมณ
โกรธ ชาเกินไปโดยที่ไมรูวาทําไม เพียงเทานั้นเอง เขาไมรูวาทําไมจึงตองรูสึกเชนนี้ โดยเครื่องบอก
อะไรเลาที่เขาสามารถรูสึกถึงมันซึมซาบออกมาจากกอนหิน ไหลเยิ้มออกมาจากหิมะ เพราะไมมีอะไร