Page 151 - curriculum-rangsit
P. 151
148 กรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น 149
“นครรังสิต“
สาระการเรียนรู้ระดับท้องถิ่น “นครรังสิต” เป็นสาระการเรียนรู้ที่โรงเรียนสามารถเลือกบรรจุไว้ในหลักสูตร ๒. ด้านประวัติความเป็นมานครรังสิต หมายถึง เรื่องราว หรือเหตุการณ์ส�าคัญที่เกิดขึ้นในชุมชน
สถานศึกษาตามบริบทของโรงเรียนที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ๗ ด้าน ดังนี้ นครรังสิต ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันซึ่งอาจจะมีการจดบันทึกเก็บไว้ หรือเล่าเป็นเรื่องราวใดๆ กันมา หรืออาจจะเป็น
ประสบการณ์จากผู้อาวุโสหรือปราชญ์ชาวบ้านที่ถ่ายทอดไว้ ประกอบด้วยสาระย่อย ๕ สาระ ดังนี้
๑. ด้านภูมิศาสตร์ หมายถึง ลักษณะทางกายภาพ ภูมิอากาศ สภาพเศรษฐกิจ ทรัพยากร ธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม ประกอบด้วยสาระย่อย ๒ สาระ ดังนี้ สาระที่ ๑ ประวัติศาสตร์นครรังสิต
ทุ่งหลวงรังสิต ก�าเนิดและพัฒนามาจากทุ่งหลวง ซึ่งเป็นทุ่งกว้างใหญ่ไพศาล เป็นที่ราบลุ่มต�่ามากมีปัญหา
สาระที่ ๑ ภูมิศาสตร์กายภาพ
การระบายน�้าที่ไม่สะดวกท�าให้ไม่เหมาะสมที่จะตั้งถิ่นฐานท�ามาหากิน สภาพเป็นป่าละเมาะ ป่าโปร่ง ทุ่งหญ้าและ
สภาพทั่วไปในเขตเทศบาลนครรังสิตเป็นที่ราบลุ่มในเขตทุ่งหลวง มีคลองรังสิตประยูรศักดิ์ผ่านกลางแบ่งเขต ป่าปรือ ทุ่งนี้เรียกกันมาแต่โบราณว่า “ทุ่งหลวง” และได้พัฒนามาประมาณ ๑๐๐ ปีก่อน ที่มีการพัฒนาการที่เด่นชัด
พื้นที่ออกเป็น ๒ ส่วน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชด�าริให้ขุดตั้งแต่ปี ๒๔๓๓ โดยขุดแยกจาก นับตั้งแต่แรก คือเริ่มต้นจากการลงทุนของเอกชนเพื่อพัฒนาการขุดคลองโดย “บริษัทขุดคลองแลคูนาสยามจ�ากัด”
แม่น�้าเจ้าพระยาที่ต�าบลบ้านใหม่ อ�าเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ไปจนถึงเขตอ�าเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ความยาว เกิดขึ้นในช่วงกลางรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ถือว่าเป็นช่วงที่มีการขยายตัว
โดยประมาณ ๓๘.๔ กิโลเมตร มีคลองซอย ๑๔ คลอง สองฝั่งคลองรังสิตประยูรศักดิ์มีคลองซอยห่างกัน ๖๐ เส้น ของพื้นที่ และน�าไปสู่การพัฒนาที่ดินในการปลูกข้าวและพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมควบคู่กับการพัฒนาเมืองรองรับ
ประมาณ ๒๔๐๐ เมตร อยู่ในเขตเทศบาลนครรังสิต จ�านวน ๓ คลองซอย ใช้ส�าหรับส่งน�้าเพื่อประโยชน์ทางกสิกรรม
และคมนาคมขนส่ง ปัจจุบันมีการสร้างอาคารบ้านเรือน โรงงานอุตสาหกรรม และการอยู่ร่วมกันหนาแน่นในด้านทาง การขยายตัวของกรุงเทพมหานคร
ทิศตะวันตก สาระที่ ๒ ประวัติศาสตร์ยุคก่อนบุกเบิก
เทศบาลนครรังสิตมีพื้นที่ครอบคลุมต�าบลประชาธิปัตย์ทั้งต�าบล จ�านวน ๘๑ ชุมชน จ�านวน ๒๐.๘๐ ตาราง
กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับพื้นที่ต่าง ๆ ดังนี้ “ทุ่งพญาเมือง” เป็นบ้านเมืองของสยามร่วมสมัยกับสมัยอยุธยาตอนต้นและภายหลังการล้มสลายของทุ่ง
พญาเมือง จึงโปรดเกล้าให้ชาวมอญเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาณได้ตั้งชุมชนบ้านเรือนขึ้น ณ บริเวณฝั่งทิศตะวันตก
ด้านเหนือ ติดต่อกับเขตเทศบาลเมืองคลองหลวงและเขตองค์การบริหารส่วนต�าบลคลองสาม อ�าเภอ
คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ของแม่น�้าเจ้าพระยาที่ต�าบลสามโคก ดังปรากฏหลักฐานในหนังสือก�าสรวลศรีปราชญ์ ซึ่งเป็นวรรณกรรมที่เกิดขึ้นใน
ด้านตะวันออก ติดต่อกับเขตเทศบาลต�าบลบึ่งยี่โถ อ�าเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น
ด้านใต้ ติดต่อกับเขตเทศบาลเมืองคูคต และเขตเทศบาลเมือง ล�าสามแก้ว อ�าเภอล�าลูกกา จังหวัด
ปทุมธานี สาระที่ ๓ ประวัติศาสตร์ยุคบุกเบิก
ด้านตะวันตก ติดต่อกับเขตเทศบาลต�าบลหลักหก และเขตองค์การบริหารส่วนต�าบลบางพูน อ�าเภอเมือง ทุ่งหลวงเริ่มพัฒนาขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามโครงการเพิ่มพื้นที่ท�านา
จังหวัดปทุมธานี เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวส�าหรับส่งออกตามข้อก�าหนดสนธิสัญญาเบาว์ริงไทยท�ากับอังกฤษ ยุคนี้เริ่มตั้งแต่มีสัมปทานขุด
คลองขยายบริษัทขุดคลองแลคูนาสยามในปี พ.ศ. ๒๔๓๑ มีผลตามมาให้เกิดการบุกเบิกที่ดินขนาดใหญ่ “ทุ่งหลวง”
สาระที่ ๒ ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ
จากสภาพทุ่งและป่าสู่นาข้าวอันกว้างใหญ่ไพศาล ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบสนองต่อเศรษฐกิจการค้าข้าวที่ได้ขยายตัวขึ้น
จังหวัดปทุมธานีมีวิสัยทัศน์ที่พัฒนาปทุมธานีให้เป็นศูนย์กลางการศึกษา วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีของ อย่างกว้างขวางภายหลังสนธิสัญญาเบาว์ริง ต่อมาพ.ศ. ๒๓๙๐ การพัฒนารังสิตได้มาถึงจุดสูงสุดเมื่อมีการพัฒนาระบบ
ภูมิภาค (Education and Technology Hub) พร้อมเสริมสร้างความเข้มแข็งวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เช่น ชลประทานโดยรัฐ ตามโครงการป่าสักใต้เป็นผลส�าเร็จในพ.ศ. ๒๔๗๐ ซึ่งท�าให้การผลิตและการค้าข้าวในเขตนี้ด�าเนิน
ท่าเรือในเทศบาลนครรังสิต มีทั้งหมด ๒ ท่า คือ ท่าเรือตลาดในและท่าเรือสะพานแก้ว เรือที่ใช้วิ่งโดยสาร คือ เรือส�าปั้น ไปได้อย่างมั่นคง
เป็นเรือแจว ท่าเรือทั้ง ๒ นี้ สร้างโดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ๆ ชาวบ้านบริเวณคลองหนึ่งจะใช้บริการเป็นส่วนใหญ่
เนื่องจากมาจับจ่ายซื้อของที่ตลาดในคลองรังสิต มีความส�าคัญต่อการเป็นอยู่ของผู้คนอย่างใกล้ชิด โดยจ�าแนกบทบาท สาระที่ ๔ ประวัติศาสตร์ยุคแห่งการพัฒนาเกษตรกรรม
ที่ส�าคัญของคลองรังสิตในอดีตดังนี้ เพื่ออ�านวยความสะดวกในการสัญจรทางน�้า คลองช่วยในการคมนาคมขนส่งทางน�้า
เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขนส่งพืชผลนอกพื้นที่เข้าสู่เทศบาลนครรังสิต เพื่อการบริโภค การบุกเบิกที่ดินในเขตรังสิตแต่ยุคของการพัฒนาเกษตรกรรม โดยเฉพาะใน การผลิตข้าวได้เริ่มขึ้นอย่างจริงจัง
การจ�าหน่าย เพื่อเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงและจับสัตว์น�้า ในอดีตคลองรังสิตมีน�้าใสสะอาด เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงและจับสัตว์น�้า เมื่อเขตรังสิตได้เป็นเขตแรกที่รัฐบาลตกลงใจเข้าไปพัฒนาระบบชลประทานตามโครงการป่าสักใต้ และโครงการนี้ได้มี
มาบริโภคเป็นอาหารของคนในท้องถิ่น สัตว์น�้ามีอยู่อย่างชุมชนในคลอง เพื่อการส่งน�้าเข้าไร่นาและการระบายน�้า ในอดีต ผลอย่างจริงจังในทศวรรษ ๒๔๗๐ เมื่อการปลูกข้าวในเขตนี้อยู่ภายใต้การควบคุมโดยชลประทาน มีผลท�าให้สามารถ
มีวัตถุประสงค์ส�าคัญอย่างยิ่ง คลองรังสิตประยูรศักดิ์ ซึ่งขุดเชื่อมแม่น�้าเจ้าพระยากับแม่น�้านครนายกนั้นให้ประโยชน์ ผลิตข้าวได้ในปริมาณที่สม�่าเสมอและแน่นอน รวมถึงสามารถขยับขยายพื้นที่การผลิตข้าวให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
ในด้านการเกษตรและการชลประทานอย่างกว้างขวางในบริเวณทุ่งหลวง หรือที่ปัจจุบัน เรียกว่า “ทุ่งรังสิต” จนกลาย
เป็นแหล่งปลูกข้าวที่ส�าคัญมาก แห่งหนึ่งในพื้นที่ใกล้กรุงเทพฯ